ในงาน Virtual Forum : Reinventing Thailand 2021 ที่ทาง Wealthy Thai จัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564
ช่วงที่ 3 ในหัวข้อ Reinventing Your Money ผมได้มีโอกาสร่วมเป็น Moderator ให้กับทาง Wealthy Thai
โดยมี
"คุณวิน พรหมแพทย์" ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด และ
"ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล" กรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์ทรีนิตี้ จำกัด เป็น speaker
มีข้อมูลการสำหรับการลงทุนในปีนึ้ ที่ดีมากๆมาแบ่งปันกันครับ
------------------------------
คุณวินและ ดร.วิศิษฐ์ มีความเห็นตรงกันในหลายเรื่อง และมองว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ดีของ Emerging Market ซึ่งรวมทั้งไทยด้วย จากปัจจัยหลายๆข้อ เช่น วัคซีน ที่กำลังเริ่มฉีดในหลายๆประเทศ นโยบายของโจ ไบเดน ที่เน้นอัดฉีดเศรษฐกิจ กระตุ้นการใช้จ่าย ซึ่งมีผลทำให้เงินไหลเข้ามาใน Emeging Market และประเทศที่น่าสนใจลงทุนมากๆ คือ เวียดนามและจีน ที่จะกลับมาโตอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งช่วงปีที่ผ่านมา การลงทุนในตลาดทุนเวียดนามที่ทางกองทุนพรินซิเพิลไปลงทุน ให้ผลตอบแทนถึง 15%
ส่วนกลุ่มที่น่าลงทุน ยังคงเป็นกลุ่ม Tech ที่ยังสามารถโตได้ต่อเนื่องไปอีก 4-5 ปี โดยเฉพาะ บริษัทที่จะไป disrupt ธุรกิจของบริษัทแบบดั้งเดิม กลุ่มนี้จะโตเร็วได้อีก
สำหรับการจัดพอร์ตการลงทุนในปีนี้ ควรน่าจะต้องลด สัดส่วนการลงทุนตราสารหนี้ลง ลดสัดส่วนการลงทุนทองคำลง เพิ่มน้ำหนักในหุ้นที่เป็นหุ้น Hi-yield และเน้นหุ้นกลุ่ม Technology , Green Energy และ Commodity ให้มากขึ้น โดยควรจะต้องมีเงินสด เผื่อไว้ 30-35% ของพอร์ต เพื่อรอในช่วงที่ตลาดจะเกิด Correction ขึ้น ซึ่งทั้งสองท่านก็มองตรงกัน ว่า การ Correction ไม่น่าจะลงลึก และไม่น่าจะซึมยาว ปีนี้สามารถลงทุนแบบ Buy On Dip ได้
ในส่วนของตลาดหุ้นไทย ดร.วิศิษฐ์ ยังมองว่า sector BANK , ENERGY , ELECTRONIC มีความน่าสนใจ และช่วงจังหวะที่สำคัญต้องจับตาใกล้ชิดคือ ช่วง ปลายเดือน มีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ที่ทาง USA จะมีการอัดฉีดเงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจถึง 1.99 ล้านล้านบาท เงินจะไหลเข้าสู่ตลาดทุนใน Emerging Market
ส่วนคุณวิน มองว่าปีนี้ REIT จะกลับมาน่าสนใจ เพราะจะเริ่มกลับมาจ่ายปันผลได้ และเป้าหมายของ SET ปีนี้ที่มองไว้ คงจะอยู่แถวๆ 1650 จุด
อย่างไรก็ตาม การจัดพอร์ตไปลงทุนในกองทุน TECH ต่างประเทศ ยังควรจะต้องจัดไว้ เพราะให้ผลตอบแทนที่ดีมากๆ ส่วนสินทรัพย์พวกดิจิทัลแอสเสท มีติดพอร์ตได้ แต่ไม่ควรเป็นพอร์ตในสัดส่วนหลัก เนื่องจากมีความผันผวนสูงมาก
สรุปโดยรวมว่า ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ตลาดหุ้นไทยกลับมาได้ แต่อยากให้ลองศึกษาการลงทุนในต่างประเทศโดยเฉพาะ จีน เวียดนาม กับ กลุ่ม Tech ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 4-5 ปี