กระแสข่าวของ STGT เรื่องของไฟไหม้โรงงานถุงมือยาง ทำให้การผลิตเกิดสะดุดขึ้น แล้วแบบนี้จะกระทบกับรายได้มากน้อยแค่ไหน มาส่องดูมุมมองบทวิเคราะห์กันสักหน่อยครับ
แหล่งข่าวกล่าวว่า STGT ได้เกิดเหตุเพลิงไม้ภายในส่วนต่อขยายโรงงานผลิตถุงมือยางของบริษัทฯ สาขาสุราษฎร์ธานี 2 โดยสามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้ทั้งหมดภายในเวลา 2 ชั่วโมง ยันไม่กระทบกำลังผลิตโรงงานเดิม เนื่องจากเป็นการไฟใหม้งานส่วนต่อขยายใหม่ที่เพิ่งเริ่มทดสอบเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าในเดือนก.พ.64 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการประเมินความเสี่ยหาย
...โดยคาดการณ์ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะกระทบต่อปริมาณการผลิตทั้งปีประมาณ 200 ล้านชิ้น จากประมาณการกำลังการผลิตติดตั้งที่ 35,800 ล้านชิ้นในปีนี้
โรงงานดังกล่าวได้รับความคุ้มครองความเสียหายจากประกันอัคคีภัย และคาดว่าจะสามารถกลับมาเดินเครื่องจักรเพื่อผลิตสินค้าได้ในอีก 2-3 เดือน
บล.เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า "ผลกระทบจำกัด" โดยสรุปสาระสำคัญแบบนี้ครับ
1. โรงงานนี้ผลิตถุงมือได้ราวๆ 200 ล้านชิ้น คิดเป็น 0.6% ของปริมาณขายถุงมือยางปี 2564
2. ฝ่ายวิจัยคาดว่า STGT จะได้รับชดเชยจากประกันภัยครอบคลุมสินทรัพย์ทั้งหมด
3. มองเหมือนเดิม คือ ทั้งปี 2564 จะเติบโต 72.5% จาก YoY ทั้งราคาขายที่สูงขึ้น ปริมาณขายมากขึ้นจากสภาวถุงมือยางที่ขาดแคลน
4. ไตรมาส 1/2564 บริษัทจะประกาศกำไร New High อย่างต่อเนื่อง
บล.หยวนต้า มองว่า ไฟไหม้ แค่หมอกจางๆ ไม่ใช่ควัน แนะนำ "ลงทุน" โดยสรุปสาระสำคัญแบบนี้ครับ
1. ไฟไหม้มีผลกระทบจำกัด กระทบไม่ถึง 1% ของกำลังการผลิตทั้งหมด ดังนั้นจึงมองว่าไม่ใช่ปัญหา
2. บริษัทมีการทำประกันครอบคลุมเอาไว้ 1.2 พันล้านบาท ในขณะที่ความเสียหายอยู่ที่ 50-100 ล้านบาท ซึ่งคิดว่าน่าจะได้ค่าชดเชย และรับรู้เป็นกำไรพิเศษหลังจากไตรมาส 1/64
3. มองเป็นโอกาสสะสมหุ้น เนื่องจากผลกระทบจำกัด บริษัทมี Growth สูงถึง 77% รวมถึงปันผลที่สูง
4. ฝ่ายวิจัยชอบ STGT แต่ชอบ STA มากกว่า ...
โดยภาพรวมแล้วไม่มีอะไรน่ากังวลเกี่ยวกับ STGT เพราะไฟไหม้ไม่ถึง 1% ของกำลังการผลิตทั้งหมด ในขณะที่พื้นฐานของบริษัทยังดีอยู่ ในแง่ของรายได้และกำไรก็ยังเติบโตสูงทั้งปี 2564
--------------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า