มาดูมุมมองหุ้น OR กับ บล.หยวนต้า และดีบีเอสวิคเคอร์ส กันครับ ว่ามองกันอย่างไร แล้วราคานี้แพงไปแล้วหรือยัง
บล.หยวนต้า วิเคราะห์ว่า บริษัทรายงานผลประกอบการที่ 8.79 พันล้านบาทผลประกอบการล่าสุดที่ออกมาลดลง 19% YoY โดยมีแรงกดดันจาก 4 สาเหตุ คือ
1. ราคาขายเฉลี่ยน้ำมันลดลงตามราคาน้ำมันโลก
2. ปริมาณการขายน้ำมันลดลง โดยเฉพาะกลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน
3. การ Lockdown ให้คนอยู่บ้าน ส่งผลต่อธุรกิจ Non-oil ที่คนบรีโภคลดลง
4. การขยายสาขาธุรกิจค้าปลีก เช่น CafeAmazon มีค่าใช้จ่ายในการตัดจำหน่ายสูง
อย่างไรก็ตาม สำหรับผลประกอบการของปี 2563 แบ่งเป็น ธุรกิจน้ำมัน 69% ธุรกิจค้าปลีก 26% (มาจาก Cafe Amazon และ Texas Chicken) และธุรกิจต่างประเทศ 5%
เมื่อมองไปในปี 2564 คาดว่า OR จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10.21 พันล้านบาท เติบโต 16% YoY ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของธุรกิจน้ำมัน แต่การเติบโตหลักๆจะมาจากธุรกิจ Non-oil ที่มีการขยายอย่างต่อเนื่อง
... ในส่วนของธุรกิจ EV ที่รองรับรถไฟฟ้า จะส่งผลให้ธุรกิจน้ำมันของ OR ลดลงก็จริง แต่บริษัทเริ่มสร้างโอกาสใหม่ๆโดยนำสถานี EV Charger ในปั้มของตัวเองมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 25 แห่ง
ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิจัย "ไม่มีคำแนะนำ" สำหรับหุ้น OR เนื่องจากอยู่ในระหว่างศึกษาพื้นฐานของธุรกิจ ...
บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส มองว่า ราคาหุ้น OR ปรับเหนือจอง 89% แล้ว ...
ปรับคำแนะนำในหุ้น OR ลงมาเป็น เต็มมูลค่า จากเดิมแนะนำซื้อ โดยให้ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 21 บาทต่อหุ้น เนื่องจากมูลค่าค่อนข้างแพงกว่ากลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีค่า P/E 37 เท่า
ขณะที่ P/E ของ BCP, PTG อยู่ที่ 15 และ 18 เท่า .. ซึ่งแพงกว่าคู่แข่ง
อย่างไรก็ดี คาดว่ากำไรสุทธิของ OR ในปี 2563-2568 จะเติบโตเฉลี่ย 12% ต่อปี หนุนโดยการขยายสถานีน้ำมันเพิ่ม 100 แห่งต่อปี ร้านกาแฟ 400 แห่งต่อปี สำหรับ EBITDA margin ของธุรกิจ Non-oil คาดว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นจาก 25% ในปี 2563 เป็น 30% ในปี 2568
โดยสรุปแล้ว บทวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองไปในทาง "แพง" แต่ด้วยแผนการเติบโตของ OR ค่อนข้างชัดเจน เพียงแต่ถ้าซื้อราคานี้ ถือเป็นราคาอนาคตที่อาจจะต้องใช้เวลาไปอีกสักระยะหนึ่งครับ
----------------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล