ต้องยอมรับว่าต้นปี 2564 วงการลงทุนเรามีเหตุการณ์ระดับประวัติศาสตร์ จาก บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือ หุ้น OR ที่ถูกกล่าวถึงอย่างมาก ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการให้เปิดจองหุ้นไอพีโอ คำถามมากมาย ถามไถ่กันว่า จะจองหุ้น OR ดีไหม? มองอนาคตธุรกิจของ OR เป็นอย่างไร? ราคาไอพีโอแพงไปไหม? ฯลฯ กระทั่งถึงช่วงวันจองซื้อ ก็มีนักลงทุนทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ แม้แต่คนไม่มีพอร์ตก็เข้าไปลุยจองหุ้นกันอย่างมากมาย
หลังจากมีการเปิดเผยจำนวนหุ้นที่ได้รับการจัดสรร ทั้งโควต้ารายย่อยประมาณ 900 ล้านหุ้น และจากโควต้าผู้ถือหุ้น PTT เดิมอีก 300 ล้านหุ้น เหล่านักลงทุนรายย่อยต่างก็แชร์ข้อมูลหากัน บ้างก็โพสต์ผ่าน Facebook ว่า ตัวเองได้รับการจัดสรรกันจำนวนกี่หุ้น หุ้นเข้ามาในพอร์ตหรือยัง และเงินทอนจากการโอนเกินเข้าบัญชีหรือยัง มีการอัพเดทบนหน้าข่าวโซเชียลมีเดียตลอดเวลา นั่นยิ่งทำให้กระแสหุ้นจองตัวนี้ กระหึ่มก้องกลบเสียงหุ้นตัวอื่นๆในตลาดแบบทิ้งขาด
ผมคิดว่า นี่คือปรากฏการณ์หุ้น OR ฟีเวอร์ จำนวนรายย่อยที่มาจองหุ้น OR ผ่านสามแบงค์ใหญ่ มีมากถึงกว่า 5.3 แสนรายการ และจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยในเช้าวันซื้อขายวันแรก คือ 525,054 ราย
วันซื้อขายวันแรก(11 ก.พ.)ได้ผ่านมาแล้ว และนั่นยิ่งทำให้กระแสหุ้น OR กระหึ่มหนักขึ้นไปอีก เพราะเป็นหุ้นตัวใหญ่ที่สามารถปิดบวกในวันแรกได้สูงถึง +62.5% เป็นอั่งเปาวันตรุษจีนให้รายย่อยกว่าครึ่งล้านรายได้ชื่นใจ ไม่ว่าจะรับรู้กำไรมาแล้ว หรือแสดงเป็นกำไรทางบัญชีอยู่ก็ตามที
ประเด็นที่ผมอยากสื่อสารถึงนักลงทุนหน้าใหม่ ที่ได้ลิ้มรสกำไรหอมหวานจากหุ้นไอพีโอตัวแรกในชีวิต ... ก็อย่าเพิ่งคิดว่าหุ้นไอพีโอ ดีเลิศแบบนี้ทุกตัว เพราะบางตัวก็ไม่เป็นแบบนี้ ที่ขาดทุนตั้งแต่วันแรกที่เข้าตลาดก็มี
คุณสมบัติที่ดีของ หุ้นไอพีโอ ไม่ว่าในอดีต ปัจจุบันหรืออนาคต ที่สำคัญที่สุด 2 ประการ คือ
1. ราคาไอพีโอต้องไม่แพงเกินไป ยังพอมีส่วนลด discount ให้บ้าง...ช่วยอ่อยให้เม่าบ้าง.... ค่าพีอี ไม่ควรโดดเกินตลาด หรือเกินคู่แข่งที่ทำธุรกิจเดียวกัน
2. Demand ความต้องการในหุ้นต้องยังมี รายย่อยยังอยากได้ กองทุนยังของขาด การประชาสัมพันธ์ โฆษณาต้องถึง มวลชนเห็นว่าเป็นของดี อยากมาร่วมเป็นเจ้าของ
และวันที่สำคัญที่สุด คือวัน First Trading Day เข้าซื้อขายวันแรก ที่หุ้นไอพีโอชั้นดี ไม่ควรเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ เช่น ปิดต่ำจอง หรือ แรงขายมากกว่าแรงซื้อมากๆ ตั้งแต่วันแรกที่เข้าตลาด
และเมื่อผ่านวันแรกมาแล้ว หุ้นไอพีโอก็จะกลายเป็น "หุ้นตัวนึง" ในตลาด วอลุ่มที่เคยร้อนแรง จะค่อยๆลดลงเรื่อยๆไปสู่ค่าปกติของมัน ราคาหุ้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามแรงเงินซื้อขายและแรงกรรมของผลประกอบการ
กรณีหุ้น OR ตัวล่าสุดนี่ ต้องเรียกว่า "สอบผ่าน" นะครับ เพราะนักลงทุนรายย่อยจองซื้อหุ้นแค่ 11 วันฟันกำไร 60% ต้องเรียกว่า ยอดเยี่ยมแล้ว
แต่ว่า... ผลงานระดับสุดยอดในวันแรก ก็ไม่สามารถการันตีอนาคตว่า มันจะขึ้นไปเรื่อยๆไม่สิ้นสุด เพราะเห็นหลายๆท่านเริ่มใส่ความคาดหวังแบบเต็มเหยียด บ้างว่า 30 บาท บ้างว่า ต้อง 100% ไปที่ 36 บาท
ถ้าสายพื้นฐานก็ยอมรับว่า ราคาตลาดที่บวกมา 62.50 % จากราคาไอพีโอ ทะลุเป้าทุกโบรคฯแล้ว แต่ถ้าท่านเป็นสายเก็งกำไรอันนี้ เป้าหมายอยู่ที่ใจ ก็ต้องใช้เครื่องมือในการตัดสินใจซื้อขายให้ปลอดภัย
อย่างไรก็ขอให้ใจเย็นๆ ต่อให้กระแสยังดี เหล่าเม่าปีกเหล็กก็ต้องใช้ความระมัดระวังด้วย ใช้ความรู้ การวิเคราะห์และหลักการลงทุนที่ตนเองมีประกอบการตัดสินใจ จึงจะเดินทางในเส้นทางการลงทุนได้อย่างปลอดภัยและยาวนานครับ