กระแสมาแรงมากจริงๆสำหรับการจองหุ้นของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เพราะนอกจากขึ้นชื่อว่าเป็นของ ปตท. บริษัทที่มี Market Cap เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยแล้ว ทำให้นักลงทุนรายย่อยอยากได้กันทั้งนั้น

 

สิ่งที่พิเศษอีกอย่างของหุ้น OR คือการให้สิทธิแก่ประชาชนทุกคนสามารถจองซื้อเพื่อลงทุนกับ OR ได้ หรือที่เรียกกันว่า IPO โดยราคาหุ้นจะเสนอขายอยู่ที่ 18 บาทต่อหุ้น

 

ด้วยราคาที่เอื้อมถึงได้ การันตีแน่นอนว่าจะได้จำนวน 300 หุ้นเป็นขั้นต่ำ เพียงเตรียมเงินจำนวน 5,400 บาท ก็สามารถเป็นเจ้าของปั้มน้ำมันอันดับหนึ่งของเมืองไทยอย่าง ปตท. ได้แล้ว

 

แค่นี้ก็ทำให้คนหันมาสนใจการลงทุนมากขึ้น จากคนที่ไม่เคยคิดที่จะเล่นหุ้นเลย ต่างพากันไปเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กันพอสมควร 

 

แน่นอนว่าปีนี้จะมีนักลงทุนหน้าใหม่จำนวนมาก เข้ามาในตลาดเพื่อแสวงหากำไรจากเงินที่พวกเขาได้ไปลงทุนกับ OR อาจจะเป็นการเก็งกำไรส่วนต่าง หรือตัดสินใจซื้อหุ้นเพิ่มเพื่อการลงทุนระยะยาวก็เป็นได้ 

 

แต่อย่าลืมว่าเรากำลังอยู่ในภาวะวิกฤตการระบาดของโควิด-19 ครั้งใหม่อยู่ แน่นอนว่ามือใหม่หลายคนยังไม่เจอภาพหุ้นแดงทั้งกระดาน 

 

วันนี้เลยเอา 4 ข้อควรรู้สำหรับมือใหม่เริ่มลงทุนในช่วงวิกฤตมาให้อ่านครับ 

 

1. รักษาเงินต้นให้ได้

มือใหม่ต้องจำไว้ว่าตลาดหุ้นมีความผันผวนมาก ตลาดหุ้นไม่มีทางแจกเงินง่าย เผลอๆจะเอาเงินเราไปด้วยซ้ำ ฮ่าๆ ทางที่ดีเราควรป้องกันเงินของเราด้วยการรักษาเงินลงทุนขั้นต้นไว้ ทำได้โดยการหาหุ้นที่มีการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่ผันผวนมาก ไม่หวั่นไหวตามภาวะตลาด อาจจะได้ผลตอบแทนที่ไม่สูงมาก แต่ก็มีโอกาสทำให้เราไม่สูญเสียเงินต้น

 

2. ซื้อหุ้นผิดทาง ต้องคัทลอส

มือใหม่หลายคนยังไม่รู้ว่าคัทลอสคืออะไร Cut Loss คือการตัดใจยอมขายขาดทุน เพื่อไม่ให้ขาดทุนไปมากกว่าเดิม ห้ามคิดว่าไม่ขายไม่ขาดทุนเด็ดขาด ไม่งั้นพอร์ตหุ้นของเราจะเสียหายหนักกว่าเดิม การคัทลอสถือว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับหยุดการขาดทุน และยังพอมีโอกาสได้เข้าไปซื้อหุ้นตัวใหม่ได้ (ต้องหาหุ้นดีให้เจอนะ)

 

3. ซื้อ ถือ รับปันผล นำเงินปันผลซื้อหุ้นเพิ่ม

แนวคิดง่ายๆสำหรับมือใหม่ (แต่ไม่ค่อยมีใครทำ) คือเน้นการลงทุนแบบระยะยาว การออมในหุ้นช่วยสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวให้แก่เรา และกลยุทธ์นี่จะช่วยติดปีกให้หุ้นปันผลของเรา เพราะการที่เรานำเงินปันผลที่ได้รับ มาซื้อหุ้นเพิ่ม นั้นหมายความว่าเราจะได้จำนวนหุ้นมากขึ้น เราก็ได้รับเงินปันผลมากขึ้นกว่าเดิมนั้นเอง บางทีการได้เงินปันผลอาจจะเยอะกว่ากำไรที่สะสมจากการซื้อขายระยะสั้นก็เป็นได้

 

4. ลงทุนหุ้นในหลายๆอุตสาหกรรม เพื่อกระจายความเสี่ยง

ยามที่เราเผชิญกับวิกฤต การลงทุนในหลายๆอุตสาหกรรมจะช่วยทำให้พอร์ตของเราไม่เสียหายหนักมาก เพราะยามที่ตลาดหุ้นลง อาจจะมีอุตสาหกรรมบางกลุ่มได้รับผลประโยชน์ หรือไม่ได้รับผลกระทบมาก หุ้นกลุ่มนั้นก็จะมาช่วยเฉลี่ยผลตอบแทนให้กับพอร์ตของเรา อย่างน้อยควรมีสัก 9-10 ตัว แยกตามอุตสากรรม ซึ่งดีกว่าการลงทุนหุ้นแค่ 2-3 ตัว โดยเน้นลงทุนอุตสาหกรรมที่สามารถเอาชนะวิกฤต หรืออุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวได้เร็ว ถ้ายกตัวอย่างจากการระบาดโควิดรอบแรกนั้น อุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์ดังกล่าว คือบริษัทที่ผลิตเครื่องมือการแพทย์ ถุงมือยาง เป็นต้น 

 

ตลาดหุ้นไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง ย่อมมีความเสี่ยงสูง ควรศึกษาหุ้นเพื่อรู้จักกับมันมากที่สุด และสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องรู้ว่าตัวเองเป็นนักลงทุนสไตล์ไหน จะเป็นนักเก็งกำไร หรือจะเป็นนักลงทุนระยะยาว พยายามหาตัวเองให้เจอ ลงทุนให้เหมาะกับตัวเอง

 

และนี่คือ 4 ข้อที่มือใหม่ควรรู้ ถ้าคิดจะลงทุนในยามวิกฤตครับ