#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

จาก WallStreetBets สู่ประวัติศาตร์การตอบโต้ของคนตัวเล็ก

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
307 views

ถือเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ทีต้องจดจำในโลกทุนนิยมจากการกระทำของกลุ่ม WallStreetBets ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่สามารถทำให้นักลงทุนสถาบัน กองทุน Hedge Fund ขนาดใหญ่ ต้องขาดทุนมหาศาล จากการรวมตัว "Corner" หุ้น หรือสินทรัพย์ที่ถูก "รังแก" มายาวนาน เป็นการตอบโต้ในเชิงสัญลักษณ์ว่า
 ... พวกกองทุนขนาดใหญ่เป็นคนกำหนดเกม พวกฉันเป็นแค่คนเดินตาม แต่หลังจากนี้จะไม่เป็นอย่างนั้น นักลงทุนรายย่อยจะเป็นคนสร้างเกม เพื่อให้พวกรายใหญ่เดิมตาม ....  เรียกได้ว่าเป็นการตอบโต้ของคนตัวเล็กซึ่งเป็นนักลงทุนรายย่อยอย่างแท้จริง

 

อย่างที่ทุกคนรู้กัน กระแสหุ้น GameStop ขึ้นมามากจากการนัดรวมตัวของรายย่อยใน Reddit กลุ่ม WallStreetBets เพื่อลากหุ้น ส่งผลให้กองทุนขนาดใหญ่ซึ่งช๊อตเซลล์ (ขายล่วงหน้า) หุ้น GameStop มาก่อนหน้า จำใจต้องกลับมาซื้อหุ้นคืนเพื่อปิดช๊อต ส่งผลให้ราคาหุ้นยิ่งกระโดดอย่างรุนแรง ขึ้นไปกว่า 1,500% ในไม่กี่วัน แล้วก็ยังมีสินทรัพย์อีกหลายตัวเช่น เหรียญดิจิตอล XRP และหุ้นอีกหลายตัว ตรงนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไป
... ก่อนจะเป็นหุ้น GameStop ที่เป็นกระแส ก่อนหน้านั้นยังมีหุ้น  AMC Entertainment  ที่นัดรวมตัวกันซื้อทำให้หุ้นพุ่งไปกว่า 500%  หรือหุ้น Bed Bath & Beyond ที่ขึ้นไปแล้ว 150% ล้วนเป็นหุ้นที่ถูกนักลงทุนสถาบันช๊อตเซลล์ และไม่เป็นที่สนใจมาโดยตลอด


ประเด็นคือ การตอบโต้ของนักลงทุนรายย่อย จะเป็นแบบนี้ไปตลอดไหม ? และสถาบัน-กองทุน Hedge Fund รายใหญ่ ควรจะหันมาสนใจรายย่อยมากขึ้น หรือไม่ ?


หนังสือพิมพ์ TheGuardian ได้สัมภาษณ์ผู้ก่อตั้งกลุ่ม WallStreetBets นาย Jaime Rogozinski  นักเขียน , นักเก็งกำไรหุ้น และผู้ก่อตั้งกลุ่มใน Reddit
เขากล่าวว่าการเก็งกำไรหุ้นครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย เพราะเขาไม่ได้เข้าไปดูในกลุ่ม Reddit มาหลายเดือนแล้วเนื่องจากอยากใช้เวลากับครอบครัว และดูแลลูกแฝดของเขา

เมื่อนักข่าวถามเขาว่า รู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ... ?
"รู้สึกแปลกใจ" เขากล่าว
"แต่ผมคิดว่า มันไม่น่าจะไปได้ไกลกว่านี้ ... หมายความว่า มันจะมีลักษณะไปในทิศทางนี้ แต่การรวมกลุ่มกันเพื่อลากหุ้น มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้ได้ตลอดไป"

 

ส่วนตัวผู้แปลพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เขาพูด คำว่า ทิศทางที่เขากล่าวถึง น่าจะหมายความว่า กองทุนใหญ่ๆไม่สามารถใช้เงินมากๆมาควบคุมทิศทางราคาหุ้นได้อีกต่อไปแล้ว

 

สอดคล้องกับความเห็นของ Joshua Mitts ผู้เชี่ยวชาญทางด้านหลักทรัพย์และวิธีการขายช๊อตล่วงหน้า แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย แสดงความเห็นว่า เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่นักลงทุนรายย่อยจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อดันราคาหุ้น ส่งผลให้กองทุนต้องกลับมาซื้อหุ้นคืนเพื่อปิดช๊อต
... นี้ถือเป็นพัฒนาการของตลาดอีกก้าวหนึ่งที่ยืนยันว่า หุ้นหรือสินทรัพย์อะไรก็ตาม ต่างมี DownSide ที่จำกัด เราไม่สามารถมองมันได้ว่าจะลงได้ตลอดไป หรือลงไปจนมูลค่าเท่ากับ 0 เพราะเมื่อถึงจุดๆหนึ่ง เมื่อมันตกต่ำมายาวนาน มันก็จะขึ้น หุ้น GameStop เป็นตัวอย่างที่ดี


หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ได้ยกเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่าคล้ายคลึงกับเหตุการณ์บุกยึดวอลสตรีท (Occupy Wall Street) ในช่วงปี 2011 ของบรรดาประชาชนทั่วไปที่เป็นชนชั้นแรงงาน อดทนต่อคนชนชั้นสูงไม่ไหว เช่นเรื่องของเศรษฐกิจ การเมือง ความไม่เท่าเทียมของบริษัทขนาดใหญ่ที่เอาเปรียบ การคอรัปชั่น และการใช้อิทธิพลครอบงำรัฐบาลโดยพวกยักษ์ใหญ่ด้านการเงิน
... การประท้วงครั้งนั้นสโลแกนของผู้ชุมนุม คือ "We are the 99%" ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความแตกต่างว่า คนรวยเพียง 1% (ในวอลสตรีท) กระทำกับคนอีก 99% อย่างไม่เท่าเทียม

การประท้วงครั้งนี้ได้แพร่กระจายไปยังเมืองต่างๆทั่วอเมริกา รวมถึงทั่วโลกเป็นเหมือนการปฏิวัติรูปแบบหนึ่งที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง และเรียกร้องความยุติธรรม

สุดท้ายการชุมนุมนี้ก็จบลงด้วยการสลายการชุมนุมของภาครัฐ และเวลาที่นานเกินไป ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมอ่อนหล้า และจบลงในที่สุด สุดท้ายก็ไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ตลาดวอลสตรีทก็ยังดำเนินต่อไป คนรวยก็ได้รวยกันต่อไป ส่วนคนชนชั้นกลาง-ล่างที่เรียกตัวเองว่า 99% ก็ยังคงต้องทำงานกันต่อไป


กลับมาที่ประเด็น WallStreetBets ก็เป็นกรณีที่น่าศึกษาที่น่าสนใจว่า สุดท้ายแล้วจะจบลงอย่างไร การเข้ามาแทรกแซงของภาครัฐที่พยายามจะช่วยเหลือสถาบันการเงินรายใหญ่ แล้วนักลงทุนรายย่อยจะรวมตัวกันไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่ ก็ถือเป็นประเด็นที่น่าติดตามครับ

---------------------------

ขอบคุณแหล่งข้อมูล

CNN Business
 

The WallStreet Journal
 

TheGuardian


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง