สรุปสาระสำคัญ

• Bank of Singapore แสดงความว่าเห็นว่าสกุลเงินดิจิตอล (cryptocurrencies) มีศักยภาพเพียงพอที่จะมาแทนทองคำได้ในอนาคต
• แต่ก่อนจะถึงจุดนั้นได้ต้องใช้ระยะเวลาอีกนานมากๆ และต้องได้รับการรับรองจากประเทศต่างๆ ซึ่งตอนนี้ยังไม่เห็น
• เงินดิจิตอล เป็นสินทรัพย์ดิจิตอลที่เก็บได้ง่าย เคลื่อนย้ายได้ดีกว่าทองคำ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะถูก Hack ได้ง่ายกว่ามาก หรือความเสี่ยงที่แพลตฟอร์มซื้อขายจะล่ม
• อย่างไรก็ตาม มันเหมาะที่จะมาเก็บมูลค่า (Store Value) แทนทองคำ แต่ไม่เหมาะแก่การนำมาใช้จ่าย เป็นเงินตรา (Fiat Currencies)

กระแสเงินดิจิตอลมาแรงมากๆ ไม่ว่าจะใช้เพื่อการเก็งกำไรหรือเป็นสินทรัพย์ "เพื่อคนรุ่นใหม่" ก็ตาม แต่ตัวมันเองก็ยังตั้งอยู่บนความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร

ล่าสุด "เงินดิจิตอล จะมาแทนทองคำได้ในอนาคต" ...
นี้เป็นความคิดเห็นของ Bank of Singapore ที่ว่าเงินดิจิตอลอาจจะมีความน่าเชื่อถือพอๆกับทองคำ แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้จำเป็นจะต้องผ่านการทดสอบ 3 ข้อให้ได้ก่อน คือ

1. สถาบันการเงินใหญ่ๆ หรือธนาคารที่น่าเชื่อถือ ต้องมีการถือ digital currencies นั้นๆเสียก่อน และยอมรับว่าเงินดิจิตอลนั้นๆถูกกฏหมายสามารถนำมาเพื่อแลกเปลี่ยนกันได้ โดยธนาคารนี้เป็นผู้รับรอง .. ซึ่งปัจจุบันนี้ยังไม่เห็น

2. ราคาของเงินดิจิตอลต้องไม่ผันผวนรุนแรงอย่างในปัจจุบัน

3. ต่อจากข้อ 2 คืออาจจะต้องมีการ "ถือ" สินทรัพย์อ้างอิงบางอย่าง คล้ายๆไอเดียของสกุลเงิน Diem ของ Facebook ที่มีการนำสกุลเงินต่างๆอยู่ในตะกร้าเพื่ออ้างอิงกับราคาสินทรัพย์นั้นๆ เพื่อไม่ให้ผันผวนมากๆ

นาย Mohi-uddin หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Bank of Singapore แสดงความคิดเห็นว่าเงินดิจิตอลกระแสมาแรงมากๆ เนื่องจากความเชื่อของคนรุ่นใหม่ว่ามันจะเป็นแหล่งสะสมมูลค่าที่จะมาทดแทนทองคำได้ในอนาคต เก็บได้ง่ายกว่า เคลื่อนย้ายได้ง่ายกว่า แต่นั้นก็เสี่ยงกับการถูก Hack หรือถ้าแพลตฟอร์มซื้อขายที่ไม่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง "ล่ม" ขึ้นมา ก็จะสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนได้
ดังนั้น นักลงทุนไม่ควรมองแต่ด้านดีอย่างเดียว ควรจะมองในแง่ของความเสี่ยงด้วย

นอกจากนี้ เขายังเสริมอีกว่า เงินดิจิตอลเหมาะแก่การเก็บ แต่ไม่ได้เหมาะแก่การใช้จ่ายอย่างที่เข้าใจกัน เชื่อว่ามันไม่สามารถมาทดแทน "เงินตรา" (Fiat Currencies) ได้จริงๆ

ล่าสุด DBS Bank ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสิงคโปร์ ได้เปิด Platform ซื้อขายเงินดิจิตอลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่เปิดให้บริการซื้อขาย ไม่ใช่เอกชนที่ตั้งบริษัทเพื่อมาซื้อขาย อย่างเช่น Binance หรือ Coinbase ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสิงค์โปรด้วย หรือแม้แต่ Gemini ที่ตั้งอยู่ในอเมริกา

นาย Piyush Gupta ผู้บริหารของ DBS Bank แสดงความเห็นว่า เราเห็นศักยภาพของสกุลเงินดิจิตอลที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งของตลาดทุน และประเทศสิงคโปร์ก็มีจุดยืนชัดเจนว่าจะเป็น Global Financial hub ของโลก ทางเราจึงให้ความสำคัญของสกุลเงินดิจิตอลเป็่นอย่างมาก

ปัจจุบันทาง DBS Bank เปิดรับแลก 4 สกุลเงินตรา คือ SGD, USD, HKD และ JPY เพื่อนำมาใช้แลกเงินดิจิตอล 4 สกุลเงิน คือ  bitcoin (BTC), ethereum (ETH), bitcoin cash (BCH) และ  Ripple (XRP).

----------------------------

ขอบคุณแหล่งข้อมูล

www.coindesk.com

forkast.news