หากพูดถึงอุตสาหกรรมที่เติบโตในยุคโรคระบาดโควิด-19 แน่นอนว่า เราจะต้องนึกถึงอุตสาหกรรมที่ได้ผลประโยชน์จากเหตุการณ์ครั้งนี้อย่าง กลุ่มเทคโนโลยี มาเป็นอันดับแรก 

 

อุตสาหกรรมรองลงมาจากนั้น อาจจะเป็นพวกกลุ่มโลจิสติกส์ การบริการขนส่งอาหาร หรือไม่ก็เป็นกลุ่มเครื่องมือการแพทย์ อย่างถุงมือยาง ซึ่งกลุ่มดังกล่าวนั้นสอดคล้องกับการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนไป หรือ New Normal ทั้งสิ้น

 

เราจะเห็นว่าหุ้นในอุตสาหกรรมเหล่านี้ ล้วนปรับตัวขึ้นมานำก่อนใครในตลาด ณ ช่วงเวลานั้น 

 

แต่ใครจะไปคิดว่ามีหุ้นอยู่บริษัทหนึ่งที่รายได้หลักมากจากขายเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเทคโนโลยี หรือการใช้วิถีชีวิตในรูปแบบ New Normal มากเท่าไหร่นัก แต่สามารถวิ่งขึ้นไปได้อย่างแข็งแกร่ง จนสามารถทำราคาจุดสูงสุดครั้งใหม่ หรือ All time high ได้สำเร็จ

 

ทั้งๆที่ตลาดหุ้นไทยกำลังเผชิญหน้ากับการระบาดรอบสองของโควิด-19 ด้วยซ้ำ

 

เรากำลังพูดถึงหุ้น CBG หรือ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นั้นเอง

 

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในบริษัทที่โตได้อย่างแข็งแกร่งเลยทีเดียว สำหรับ CBG กลายเป็นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังด้วยกัน

 

แม่ทัพบริษัทอย่าง คุณเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ได้ขับเคลื่อน CBG มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 139,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 6 ปีกว่าๆ นับตั้งแต่พาเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 21 พ.ย. 2557

 

มาดูงบการเงินของบริษัทกัน

 

ปี 2561 รายได้ 14,597 ล้านบาท

กำไร 1,158 ล้านบาท

 

ปี 2562 รายได้ 15,051 ล้านบาท

กำไร 2,506 ล้านบาท

 

ปี 2563 (9 เดือนแรก) รายได้  13,103 ล้านบาท

กำไร 2,651 ล้านบาท

 

เห็นได้อย่างชัดเจนว่า CBG มีงบการเงินที่โตขึ้นทุกปี ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของรายได้และกำไร ทั้งๆที่ปี 2563 ทั่วโลกต่างต้องเผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ ผลการดำเนินงาน 3 ไตรมาสรวมกันของ CBG กลับมีกำไรมากกว่าทั้งปี 2562 เสียอีก

 

ขายเครื่องดื่มชูกำลัง กำไรมากขนาดนี้เลยเหรอ 

 

ผิดครับ CBG ไม่ได้มีแค่เครื่องดื่มชูกำลังอย่างเดียว เพราะยังสินค้าอื่นๆที่มีความหลากอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่มชูกำลังแบบอัดลม เครื่องดื่มเกลือแร่ น้ำดื่ม กาแฟกระป๋อง เป็นต้น 

 

จุดแข็งที่สำคัญอีกหนึ่งข้อ คือ CBG มีตลาดทั้งไทยและตลาดต่างประเทศ  แม้ปี 2562 CBG จะมีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในไทยเป็นอันดับที่สอง แต่สามารถเข้าไปมีส่วนแบ่งในต่างประเทศได้โดยเฉพาะ 5 ตลาดใหญ่ของโลกอย่าง อเมริกา จีน ญี่ปุ่น อังกฤษ และบราซิล ได้นั่นเอง ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่าง พม่า หรือกัมพูชา พวกเขาคืออันดับหนึ่ง

 

อีกประเด็นหนึ่งที่น่าใจ ซึ่งน่าจะทำให้ราคาหุ้น CBG วิ่งต่อ คือ การให้ข่าวว่าทางบริษัทเตรียมที่จะเปิดเครื่องดื่มตัวใหม่ที่มีสรรพคุณ “คลายเครียด” และ “ผ่อนคลาย” ถือเป็นการสร้างฐานลูกค้ารายใหม่อีกประเภทไปเลย 

 

ตรงนี้ทำให้ CBG จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก

 

และนี่เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่สามารถยืนหยัดท่ามกลางการระบาดของโควิดได้ ทั้งในเรื่องผลประกอบการและราคาหุ้น ลองนึกภาพตอนที่โลกใบนี้สามารถคุมการระบาดของโควิดได้สำเร็จ หรือวัคซีนต้านไวรัสกระจายไปทั่วโลก กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังจะเป็นอย่างไร

 

ใครที่กำลังถือหุ้น CBG อยู่ ติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปครับ