สรุปสาระสำคัญ

• เฉพาะเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา เพียงเดือนเดียวมีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาซื้อหุ้นจีนมากกว่า 1.62 ล้านคน เป็น 2 เท่าของเดือนธันวาคมในปี 2562 ที่เข้ามาใหม่เพียง 8 แสนคนเท่านั้น
• สาเหตุสำคัญมาจากคนจีนจำนวนมากมีรายได้เพิ่มขึ้น มีเงินเหลือเก็บมากขึ้นและอยู่กับบ้านไม่รู้จะทำอะไรเนื่องจาก Coronavirus เลยมาซื้อขายหุ้นแทน
• จะเห็นได้ว่าหุ้นจีน Outperform ตลาดหุ้นทั่วโลก และดัชนี Shanghai Composite ทำจุดสูงสุดในรอบ 5 ปี ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ดูเหมือนว่าการลงทุนในหุ้นจีนกลายมาเป็น "กระแส" ที่จะต้องไปลงทุนให้ได้ไม่แพ้ตลาดหุ้น NASDAQ ของอเมริกาที่มุ่งหน้าทำจุดสูงสุดไปแล้ว และดัชนี Shanghai และ Shenzhen ก็ไม่มีท่าจะหยุดความร้อนแรงได้เลย กระแสนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่จีนอย่างเดียว แต่เกิดขึ้นทั่วทั้งโลกไม่เว้นแม้กระทั่งไทย ที่จะเห็นโฆษณาหรือมีการโปรโมตผ่านสื่ออนไลน์ต่างๆ

ในปี 2020 ที่ผ่านมา มีนักลงทุนชาวจีนหน้าใหม่เพิ่มขึ้น 18 ล้านคน รวมเป็น 177 ล้านคน นี้ถือเป็น "กระแส" การลงทุนที่หลั่งไหล และเม็ดเงินมหาศาลที่เข้าสู่ตลาดหุ้นจีน จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหุ้นจีนถึงเดินหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่องกลายมาเป็น "ตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดอันดับ 2 ของโลกเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา"

นอกจากนักลงทุนที่เข้ามากันมากแล้ว ยังมีบริษัทจดทะเบียนมากกว่า 233 บริษัทเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นซ่างไฮ้ เซินเจิ้น รวมถึง  Star market (ตลาดหุ้นสายเทคโนโลยีของจีน คล้ายๆ NASDAQ ของอเมริกา) และเชื่อว่าในปี 2021 จะมีบริษัทรอเข้าระดมทุนอีกเกือบ 300 บริษัทในปีนี้

หุ้นจีนขึ้น อานิสงค์ตกอยู่ที่ตลาดหุ้นฮ่องกง
อย่างที่รู้กันว่า ตลาดหุ้นจีนจะสงวนไว้ให้นักลงทุนชาวจีน และนักลงทุนสถาบันที่ได้รับการ "รับรอง" จากรัฐบาล เท่านั้น ถ้านักลงทุนต่างชาติอยากจะซื้อหุ้นจีนต้องซื้อผ่านตลาดหุ้นฮ่องกง ในชื่อของ H-Share
ตัวอย่างหุ้นจีนที่ไปจดในตลาดหุ้นฮ่องกง เช่น Tencent, Meituan, JD.com รวมถึงหุ้น Old Economy ของจีน เช่น China Mobile, China Insurance, Petro China, CNOOQ เป็นต้น

ถึงแม้ว่ากระแสประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่พยายามจะ "แบน" หุ้นจีนที่ไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ค และรัฐบาลจีนก็ไม่ได้ "สนใจ" กับประเด็นนี้มากนัก พร้อมอ้าแขนรับหุ้นเหล่านี้ให้กลับมาซื้อขายในบ้านของตัวเอง

อย่างไรก็ตามกระแสหุ้นจีนมาทำให้นักลงทุนหันมาซื้อขายหุ้นจีนที่เทรดในตลาดหุ้นฮ่องกง แต่ข้อมูลบอกว่าหุ้นสัญชาติฮ่องกงจริงๆโดนเทขายอย่างหนัก เพื่อมาซื้อหุ้นจีนในตลาดฮ่องกงแทน

ธีมของหุ้นจีนน่าสนใจ แต่ขึ้นมาเยอะแล้วต้องระมัดระวัง
นักวิเคราะห์ของ UBS แสดงความเห็นว่าธีมของหุ้นจีนเป็นอะไรที่น่าสนใจ เช่น สายเทคโนโลยี - Innovation พลังงานสะอาด อุตสาหกรรมประเภทผลิตชิป

แต่หุ้นเหล่านี้ขึ้นมามาก ถ้าเทียบกับราคาเหมาะสมที่ UBS ให้ไว้มี Upside อยู่ประมาณ 5-10% ซึ่งดูๆแล้วอาจจะไม่เหมาะกับการคาดหวังระยะยาวเท่าไร ... นักวิเคราะห์ของ UBS แสดงความคิดเห็น

ที่มาข่าว : CNBC