Bolinger Band หรือ BB เป็นเครื่องมือทางเทคนิคอีกตัวที่นักเก็งกำไรนิยมใช้กันมาก และในหุ้นไทยคนส่วนใหญ่ก็ใช้กันในวงการเทรด

ลักษณะของ Bolinger Band จะเป็น "กรอบของการแกว่งตัวของแท่งเทียน" โดยจะมีเส้นค่าเฉลี่ย 3 เส้น ในระยะห่างที่เท่าๆกัน
.. เราเรียกทั้ง 3 เส้นนี้ว่า เส้นบน เส้นกลาง และเส้นล่าง

วิธีการใช้หลักๆของ Bolinger Band เพื่อบอกแนวโน้มของหุ้น รวมถึงจังหวะของการซื้อ และการขาย

>> แนวโน้มของหุ้น <<
อย่างที่นักลงทุนรู้กัน โดยแนวโน้มของหุ้นมี 3 ลักษณะ คือ Sideway, Uptrend และ Downtrend

1. แนวโน้ม Sideway
ราคาหุ้นแกว่งตัวขึ้นๆลงๆ กรอบของ BB จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบเรื่อยๆ นั้นหมายถึงหุ้นก็จะวิ่งภายในกรอบ พอชนเส้นบนแล้วลง พอชนเส้นล่างแล้วขึ้น

หุ้นยิ่งนิ่งเท่าไร จะยิ่งบีบกรอบของ BB ให้แคบมากเท่านั้น
นักเก็งกำไรบางคนอาจจะไม่สนใจ
แต่สำหรับนักเก็งกำไรบางคน เข้าใจว่าหุ้นกำลังรอเลือกทาง ไม่ขึ้นแรง ก็ลงแรงไปเลย อาจจะมีจังหวะในการเก็งกำไรก็เป็นได้

2. แนวโน้ม Uptrend
แท่งเทียนจะอยู่เหนือเส้นกลาง และเคลื่อนไหวเข้าใกล้เส้นขอบบนไปเรื่อยๆ

จากภาพจะเห็นได้ว่าหุ้นอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยเกาะขอบบนไปเรื่อยๆ และจะยังไม่เปลี่ยนแนวโน้มหากไม่หลุดเส้นกลาง

3. แนวโน้ม Downtrend
แท่งเทียนจะอยู่ใต้เส้นกลาง และเกาะเส้นขอบล่างไปเรื่อยๆ

จากภาพจะเห็นได้ว่าหุ้นอยู่ในแนวโน้มขาลง โดยเกาะขอบล่างไปเรื่อยๆ และจะยังไม่เปลี่ยนแนวโน้มหากไม่ยืนเหนือเส้นกลาง

>> จังหวะการซื้อ - การขาย <<
1. ถ้าเป็นแนวโน้ม Sideway เราแค่จับตา แต่ยังไม่ซื้อก่อน
แต่สำหรับนักเก็งกำไรบางคน อาจจะชอบเล่นกรอบแคบ ขึ้นขาย ลงซื้อ โดยแตะเส้นขอบล่าง คือ ซื้อ และแตะเส้นขอบบน คือ ขาย

2. ถ้าเป็นแนวโน้ม Uptrend เราสามารถปล่อย Let Profit Run ไปเรื่อยๆ และจะขายก็ต่อเมื่อแท่งเทียนแกว่งตัวหลุดเส้นกลาง

3. ถ้าเป็นแนวโน้ม Downtrend เราจะดูไปเรื่อยๆ และจะซื้อก็ต่อเมื่อแท่งเทียนทะลุและยืนเหนือเส้นกลางได้ จะเป็นจังหวะของการซื้อ และขายเมื่อหลุดเส้นกลาง

ดูเหมือนว่า Bolinger Band จะเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่าย แต่การจะทำตามระบบได้นั้นเป็นเรื่องของการฝึกฝน ความชำนาญ และความเคยชินระดับหนึ่ง ดังนั้นเราจะต้องมีระเบียนวินัยระดับหนึ่งครับ