ถึงแม้ว่าสถานการณ์ของ Alibaba ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทางการจีนสอบสวนเรื่องการผูกขาด การไม่ลงรอยกันระหว่าง Jack Ma และรัฐบาลจีน รวมถึงการหายตัวไปอย่างลึกลับของ Jack Ma ทำให้เกิดความกังวลว่ากันว่า เกิดอะไรขึ้น ?
แต่จริงๆแล้ว นักลงทุนอาจจะกังวลไปเอง
เรามาดูมุมมองว่ามุมมองของนักลงทุนสถาบันมองอย่างไรกันบ้าง
== ย้อนรอยความกังวลของ Alibaba ==
1. จุดเริ่มต้นครั้งนี้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2563 ทางแจ็ค หม่า ได้ให้สัมภาษณ์ว่ากฏเกณฑ์ของสถาบันการเงินจีนว่าล้าสมัย และไม่เหมาะกับการพัฒนานวัตกรรมของประเทศจีนยุคใหม่ ด้วยประเด็นนี้ทำให้รัฐบาลจีนไม่พอใจเป็นอย่างมาก และ ระงับการขายหุ้น IPO ของ Ant Financial ซึ่งกำลังจะเข้าตลาดอยู่แล้วอีก 2 วัน ถือเป็นข่าวช๊อคนักลงทุนเป็นอย่างมาก
2. แหล่งข่าวคาดว่าเป็นการ "โต้กลับ" และแสดงความไม่พอใจของรัฐบาลจีนที่มีต่อนายหม่า ว่าล้ำเส้นเกินไป สื่อบางแหล่งวิเคราะห์ว่าแจ็ค หม่า กำลังมีอิทธิพลเหนือคนรุ่นใหม่ แทนที่พรรคคอมมิวนิสต์จีน และอาจจะทำให้ "กระด้างกระเดื่อง" ต่อรัฐบาลได้
... ทั้งนี้โฆษกของรัฐบาลออกมาปฏิเสธข่าวว่าไม่เป็นความจริง
และแสดงความเห็นว่า ทาง Ant Financial เป็นตัวกลางที่ปล่อยกู้มากเกินไป และไม่มีความเสี่ยงที่ต้องแบกรับหนี้สินที่เกิดขึ้น
ดังนั้นถ้า Ant Financial อยากทำธุรกิจเกี่ยวกับสินเชื่อ ควรจะมีสินทรัพย์ของตัวเองเป็นการค้ำประกันด้วย ไม่ใช่โยนให้สถาบันการเงินหรือธนาคารรับความเสี่ยงหมด
3. เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2563 รัฐบาลจีนสอบสวน Alibaba ในกรณีผูกขาดทางการค้า และใช้แพลตฟอร์ตของตัวเองอย่างไม่เป็นธรรม เช่น นโยบาย 2- Choose-1 หรือผู้ขายจะต้องเซ็นสัญญาว่าจะไม่เอาสินค้าของตัวเองไปขายที่แพลตฟอร์มของคู่แข่ง
4. พอขึ้นปี 2564 ทางการสหรัฐ พิจารณา Alibaba และ Tencent เข้าบัญชีดำห้ามลงทุน เพราะคิดว่าบริษัทที่อยู่นจีนมีความสัมพันธ์กับทหาร ซึ่งไม่เหมาะสมกับประเทศที่เป็นประชาธิปไตยอย่างอเมริกา
ด้วยเหตุที่เล่ามา ส่งผลให้หุ้น Alibaba (HK : 9988) ลงไปเกือบ 30% จากจุดสูงสุดสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเป็นอย่างมาก
== นักวิเคราะห์มองอย่างไร ==
1. นักวิเคราะห์ ให้สัมภาษณ์ในสื่อหลักอย่าง Bloomberg ว่า การออกมาตรวจสอบการผูกขาดของ Alibaba เชื่อว่าจะเป็นผลดีในระยะยาว เพราะรายเล็กมีโอกาสเข้ามาแข่งขันได้มากขึ้น ส่งผลให้ Alibaba ต้องปรับตัวและพัฒนาต่อไป
2. สำหรับประเด็นการผูกขาดนั้น ถ้าดูจากตัวเลข จะเห็นว่าส่วนแบ่งการตลาดของ Alibaba ลดลงจาก 76% เหลือเพียง 60% เท่านั้น โดยมี "จิงตง" หรือ JD.com เข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาด และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นในปัจจุบันการจะบอกว่า Alibaba ผูกขาด ก็อาจจะไม่ถูกต้องเท่าไรนัก
3. อีกท้ังการเข้ามาควบคุมของทางการจีน จะไม่ให้เกิดสงครามราคาที่รุนแรง หรือแข่งขายตัดราคาจนรายเล็กอยู่ไม่ได้ เมื่อโปรโมชั่นน้อยลง จะส่งเสริมให้อัตรากำไรของ Alibaba เพิ่มสูงขึ้น เป็นประเด็นบวกในอนาคต
4. นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley วิเคราะห์ว่ากำไรของ Alibaba จะโตประมาณ 33.8% เทียบกับปีที่แล้วถืออว่าอยู่ในระดับสูง หนุนด้วยธุรกิจ Cloud ที่จะโตประมาณ 60% จากปีที่แล้ว ดังนั้นมองเป็นโอกาสมากกว่าความเสี่ยง
5. อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวล คือ การขึ้นบัญชีดำในตลาดหลักทรัพย์อเมริกา ซึ่งถ้าเป็นจริงจะกดดันให้นักลงทุนอเมริกาเทขายหุ้นอย่างหนัก
แต่ประเด็นนี้เชื่อว่าถ้าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงจากตำแหน่ง และโจ ไบเดน ขึ้นมา อาจจะผ่อนความไม่แน่นอน และยกเลิกการแบนหุ้นก็เป็นไปได้
นี้ก็เป็นสรุปหุ้น Alibaba ที่นักลงทุนต้องติดตามครับ ...
-------------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล