มีเงินอยู่ก้อนหนึ่ง เอาไปทำอะไรดี ?
ลงทุนคอนโดปล่อยเช่าดีไหม ?
มีเงินเก็บ ซื้อหุ้นตัวไหนดี ?
ซื้อ Bitcoin ดีไหม กำลังมาเลยตอนนี้ ?
จริงๆคำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่ #ตอบยาก
และเชื่อว่าคงไม่มีใครตอบได้นอกจากตัวเราเอง
เนื่องจากว่าคนแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเงินเก็บ เวลา การรับความเสี่ยง อายุ สถานภาพ(โสด มีคู่-มีบุตร)
ทำให้การถามว่า เราควรลงทุนอะไรดี เป็นคำถามที่ไม่สามารถพัฒนาตัวเรา และไม่สามารถทำให้ตัวเราเก่งขึ้นได้ในการลงทุน
แล้วแบบนี้พอจะมีวิธีบ้างไหม
มีครับ ... นี้เป็นคำถาม 4 ข้อสั้นๆที่เราต้องตอบตัวเองก่อนจะถามว่า เราควรลงทุนอะไรดี
และถ้าทำแบบนี้ได้ เราจะเป็นนักลงทุนที่เก่งขึ้นอย่างแน่นอน
1. แหล่งของเงินออม แหล่งที่มาของรายได้
คนแต่ละคนมีอาชีพที่แตกต่างกัน ดังนั้นที่มาของรายได้ก็ไม่เหมือนกัน
ด้วยวิธีชีวิตไม่เหมือนกัน การออมเงินก็ไม่เหมือนกันแล้วด้วย
บางคนหยอดกระปุกเมื่อได้แบงก์ 50
บางคนเก็บเฉพาะเหรียญ 10
บางคนออม 10% ถ้าวันนั้นใช้จ่ายเกินกว่าที่กำหนดไว้
บางคนได้รับเงินเดือนมาออมก่อนค่อยใช้
... แหล่งเงินออม ลักษณะนี้มีมาเรื่อยๆ เราสามารถ DCA หุ้นได้ ซื้อกองทุนรวมได้ทุกๆเดือนด้วยเงินเฉลี่ยเท่าๆกัน
บางคนได้รับมรดกมา เลยสนใจการลงทุน
... แบบนี้เรียกว่าได้เงินก้อนมา ไม่มีเติมอีกแล้ว ไม่ได้มีกันบ่อยๆ เราอาจจะแบ่งสัดส่วนของเงินก้อนนั้น เช่น 30% ซื้อกองทุนรวมตราสารหนี้
40% ลงทุนในหุ้น
20% ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ
10% เก็บไว้ฝากธนาคารกินดอกเบี้ย
ดังนั้น เราต้องตอบตัวเองให้ชัดก่อนว่า เรามีแหล่งเงินออมแบบไหน เรามีที่มาของรายได้เป็นอย่างไร
2. เป้าหมายของการลงทุนของเรา
แต่ละคนมีเป้าหมายการลงทุนไม่เหมือนกัน
บางคนเก็บไว้เป็นเงินสำรอง (เสี่ยงมากไม่ได้ เซฟไว้ก่อน ตราสารหนี้ระยะสั้น)
บางคนเพื่อการเกษียณ (เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ซื้อกองทุนรวมหุ้น )
บางคนเพื่อผลิตกระแสเงินสด (ซื้อหุ้นปันผล ซื้อกองทุนอสังหาริมทรัพย์)
บางคนเพื่อแต่งงาน เพื่อสะสมให้ลูก (เสี่ยงได้กลางๆ กองทุนหุ้น-ตราสารหนี้ 50-50%)
จะเห็นได้ว่าเป้าหมายต่างกัน แผนการลงทุนก็แตกต่างกัน เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว เราก็จะรู้ระยะเวลาที่เราสามารถลงทุนให้เหมาะสมกับเป้าหมายของเราได้
3. ความเสี่ยง
ความเสี่ยงของแต่ละคนไม่เท่ากัน ... ข้อนี้เป็นเรื่องจริง
และเวลาเราทำในกระดาษ เรามักจะโกหกตัวเองว่าเรารับความเสี่ยงได้มากกว่าความเป็นจริง
ข้อนี้เราต้องค้นหาตัวเองให้เจอว่าจริงๆแล้ว เรา "พร้อม" จะสูญเสียเงินก้อนนั้นหรือเปล่า ถ้าเราเปิดรับความเสี่ยงได้มากยิ่งขึ้น เราก็จะได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับการขาดทุนด้วยเช่นเดียวกัน
4. เรามีความรู้มากแค่ไหน
ข้อนี้สำคัญมาก ... ก่อนลงทุนควรหาความรู้ก่อน
กลับไปที่จุดเริ่มต้นคือ เราควรซื้ออะไรดี ?
คำถามนี้แสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้เข้าใจหรือมีความรู้ทางด้านการลงทุนเลย
และถึงแม้จะได้คำแนะนำไป (เช่น ซื้อหุ้นสิ หรือซื้อ Bitcoin สิ) เราก็ขาดทุนอยู่ดี เพราะซื้อตามเซียน เซียนขายไปแล้ว แต่เรายังติดดอยอยู่ ...
เราต้องเข้าใจก่อนว่า การลงทุนไม่ใช่แค่การซื้อมาขายไป แต่เป็นเรื่องของการจัดการบริหารด้วย
เช่น การซื้อหุ้น คือการซื้อส่วนหนึ่งของบริษัท เราจะต้องอ่านงบการเงินเป็น ตรวจสอบบริษัททุกๆไตรมาสว่าผลประกอบการเป็นอย่างดี รายได้ลดลงไหม ถ้าลดลงเกิดจากอะไร กำไรเป็นอย่างไร ปันผลวันที่เท่าไร
... เรียกได้ว่า ต้องเกาะติดกันทุกขั้นตอน
เราไม่สามารถซื้อแล้วก็ทิ้งไปได้เลย
หรืออีกประเภทหนึ่ง คือ อยากรวยเร็ว อยากได้ผลตอบแทนเร็ว ฝากคนอื่นลงทุนซึ่งส่วนใหญ่จะจบลงที่แชร์ลูกโซ่มากกว่า (ลงทุน FOREX ไหม รับประกันเงินต้นด้วยนะ -- คุ้นๆไหม -- )
ดังนั้น สิ่งแรกที่เราควรเริ่มต้น คือ ลงทุนในความรู้ของตัวเองก่อน
ซื้อหนังสือมาอ่าน
ฟังคลิปสัมนาการลงทุนที่เชื่อถือได้ (เช่น MoneyTalk, MoneyChat หรือ Money Coach ของพี่หนุ่ม จักรพงษ์)
เมื่อเรามีความพยายามมากพอ เราก็จะเข้าใจว่าเราควรลงทุนอะไรดี ลงุทนเพื่ออะไร รับความเสี่ยงได้มากไหม และเรามีเงินเก็บมากแค่ไหน
เริ่มต้นกันตั้งแต่วันนี้ครับ ......