เริ่มต้นปีใหม่ กับความรู้สบายๆเกี่ยวกับการเก็งกำไรกันครับ
ถ้าเพื่อนๆอยู่ในตลาดมาสักพัก อาจจะได้ยินคำว่า "อย่า OverTrade"
ถ้าตามความหมายแล้ว การ OverTrade ก็คือการซื้อขายเก็งกำไรเกินตัว ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะด้วยกันคือ
1. ซื้อๆขายๆบ่อยมากเกินไป
2. เข้าซื้อหุ้น หรือเปิดสถานะด้วยเงินที่มากเกินไป (การใช้เงินมาร์จิ้นมาซื้อ ก็รวมอยู่ในนี้ด้วย)
คำถามคือ ทำไมเราถึงต้อง OverTrade
เพราะว่านักเก็งกำไรมี "ความรู้สึก" ที่อยากได้มากกว่านี้ อยากได้เร็วกว่านี้ ก็เลยเกิดความโลภ ซื้อตัวเดียวเต็มพอร์ต หรือใช้กราฟระยะสั้นจับจังหวะเข้าๆออกๆถี่จนเกินไป เพราะในการเก็งกำไรแล้วยิ่งเราขยับตัวมากเท่าไร ก็ยิ่งผิดพลาดมากเท่านั้น
... และเรายิ่งผิดพลาด ก็ยิ่งขาดทุน พอเราขาดทุนก็อยากจะได้กลับมาเท่าเดิม ก็ยิ่ง OverTrade หนักเข้าไปอีก สุดท้ายก็พัง ขาดทุนและออกจากตลาดไปในที่สุด
ดังนั้น นักเก็งกำไรจะต้องมีแผนในการเข้าออกที่ชัดเจน และจัดการกับอารมณ์ตัวเองได้ดีพอ
คำถามต่อมา คือ แล้วเราจะจัดการกับการ OverTrade อย่างไร
จริงๆการพูดเป็นเรื่องง่าย แต่การทำเป็นเรื่องยากมากกว่า แต่ก็พอมีคำแนะนำสั้นๆสำหรับผู้เริ่มต้น เช่น
1. มองให้ยาวมากขึ้น ไม่เทรดบ่อยจนเกินไป
อาจจะอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง หรือวันละ 1 ครั้ง แผนการเข้าออกต้องชัดเจน ถ้าเรารู้สึกว่าเทรดแล้วขาดทุนบ่อยจนเกินไป ให้หยุดเทรด และหันไปทำกิจกรรมอย่างอื่น เมื่อเราจิตใจปลอดโปร่งแล้วค่อยมาวางแผนการใหม่
2. กระจายความเสี่ยง แบ่งสัดส่วนพอร์ตให้ถูกต้อง
ถ้ามองในภาพใหญ่ เราอาจจะเอาเงิน 80% มาลงทุนถือยาวรับเงินปันผล ส่วนอีก 20% มาเก็งกำไร
หรือบางคนอาจจะไม่ชอบการถือยาวรับปันผล ก็อาจจะมาบริหารเงินในการจัดการความเสี่ยงให้ถูกต้อง ที่คนชอบเรียกกันว่า Money Management นั้นเอง
เช่น การเทรดแต่ละครั้ง ขาดทุนไม่เกิน 5% ของพอร์ต หรือการเก็งกำไรแต่ะครั้งจะไม่ใช้เงินเกินกว่าครึ่งหนึ่งของพอร์ตทั้งหมดในการเก็งกำไร เป็นต้น
นี้ก็เป็นเรื่องของการ OverTrade ที่นักเก็งกำไรต้องเรียนรู้กันเอาไว้ครับ ... !!