ผ่านไปอีกปีแห่งความท้าทาย สำหรับปี 2020 ทีมีความผันผวนเป็นอย่างมาก โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ

ช่วงต้นปี - กลางปี : ช่วงเวลาแห่งความหวาดกลัว ตลาดหุ้นกังวลกับโรคระบาด COVID-19 ที่รุกไปทั่วโลก ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยโดนเซอร์กิตเบรคเกอร์อย่างต่อเนื่อง กลายมาเป็นประวัติศาสตร์ที่จะถูกกล่าวถึงไปอีกนาน

ช่วงปลายปี : เหมือนหนังคนละม้วน .. ตลาดหุ้นเริ่มคลายกังวล บริษัทยายักษ์ใหญ่เริ่มมีวัคซีนต้าน COVID ตลาดหุ้นไทยเริ่มฟื้นตัวขึ้น พร้อมกับการเข้ามาของเงินทุนต่างชาติ แต่การขึ้นอย่างรุนแรงนั้นจะมีเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น คือ ช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน นั้นหมายความว่า ถ้านักลงทุนพลาด 2 เดือนนี้ไป ผลตอบแทนจะติดลบค่อนข้างมาก

เรามาดูกันว่าปี 2020 นักลงทุนในหุ้นต่างได้บทเรียนอะไรอีกบ้าง เพื่อเป็นการเตือนตัวเองไม่ให้ทำผิดพลาดอีก

1. การลดลงของหุ้น เราควรมองเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นที่มีศักยภาพดี ในราคาที่สมเหตุสมผล เพราะในระยะยาวแล้ว หุ้นที่ยังมีพื้นฐานดีก็จะกลับมาได้แต่อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย

2. การจับจังหวะตลาด ทำให้นักลงทุนพลาดโอกาสครั้งยิ่งใหญ่
ถ้าใครสังเกตดีๆจะเห็นได้ว่า จากทั้งหมด 12 เดือน จะมีเพียง 2 เดือนเท่านั้นที่หุ้นขึ้นกันอย่างหนัก (และแน่นอนว่าไม่มีใครรู้มาก่อน) นั้นคือเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน จากระดับ 1200 จุดมาแตะระดับ 1500 จุด อย่างรวดเร็ว ทำให้นักลงทุนที่ตัดขาดทุน ถือเงินสด ต่างก็กลัวๆไม่กล้ากลับเข้ามาเพราะเกรงว่าถ้าซื้อไปจะโดนตลาดถล่มอีกรอบ ก็เลยอยู่เฉยๆดีกว่า .. แต่นั้นคือจุดพลาดครั้งใหญ่

...ในทางกลับกัน ถ้านักลงทุนเลือกที่จะอยู่เฉยๆ ไม่ขาย หรือถ้าซื้อเพิ่ม กลับสร้างผลตอบแทนได้ค่อนข้างดีทีเดียว

3. ปี 2020 เป็นปีแห่งสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากที่ซบเซามานาน โดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตร
ราคาสินค้า Commodity เป็นสิ่งที่ทำนายยากที่สุด ไม่ควรเชื่อถือแม้เป็นผู้เชี่ยวชาญ หลายเหตุการณ์ในปีนี้ได้พิสูจน์ความจริงนี้ สินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะยางพาราซบเซามานานและไม่มีทีท่าจะฟื้น แต่พอเกิดวิกฤต COVID ความต้องการใช้ยางพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นั้นเป็นโอกาสทองสำหรับหุ้นยางพาราที่ไม่ได้วิ่งมานานมาก

4. ราคาหุ้น จะวิ่งตามราคาทางจิตวิทยา นำราคาพื้นฐานเสมอ
บางครั้งราคาทางจิตวิทยาเป็นบวกมากๆ หมายถึงเกิดจากการมองโลกในแง่ดีของนักลงทุน อนาคตสดใส คนก็ไล่ราคากัน แต่นักลงทุนที่มีประสบการณ์ควรจะมองเป็นจุดที่ต้องระมัดระวังมากกว่า

บางครั้งราคาทางจิตวิทยาเป็นลบมากๆ เกิดจากนักลงทุนมองแต่ข่าวร้าย โดยไม่ได้มองพื้นฐานตามความเป็นจริง แต่นักลงทุนที่มีประสบการณ์จะมองเป็นโอกาสที่น่าสนใจ ที่ควรจะเข้าลงทุนหรือไม่

สรุปคือ เราอย่าวิ่งตามตลาด ต้องมองวิกฤตเป็นโอกาส หรือมองในด้านที่คนส่วนใหญ่ไม่มองเอาไว้ด้วย

นี้ก็เป็นการลงทุน 4 ข้อ ที่เราเรียนรู้ในปี 2020 ครับ ...