คำถามหลังไมค์ ช่วงปลายปี มักถามว่า
-> ตัวผมเองซื้อประกันชีวิตไหม ? และ
-> เราควรซื้อ "ประกันชีวิต" ไหม ?
-----------------------------------------------
ตอบ... ผมเองซื้อประกันชีวิตครับ
ถามว่าทำไมถึงซื้อ... เหตุผลหลักของผม มี 3 ข้อ
หนึ่ง..ชีวิตนั้น ไม่แน่นอน
ปี 2539 ผมทำงานต่างจังหวัดเป็นวิศวกรเดินสายโทรศัพท์ตามถนน เพื่อนวิศวกรร่วมรุ่นเดียวกัน กว่าสามร้อยคน มีหน้าทีตรวจแนวเคเบิลและอุปกรณ์ในชุมสายย่อย ขับรถกระบะไปในถนนที่ไม่คุ้นเคยทั่วประเทศ
ด้วยอายุที่ยังน้อย ทำแบบนี้ทุกวันเป็นเวลาแรมเดือนแรมปี ก็เริ่มมีเพื่อนร่วมรุ่นที่ประสบอุบัติเหตุคนแล้วคนเล่า บ้างก็หนัก บ้างก็เบา รับทราบข่าวจากหนังสือเวียนที่เพื่อนๆร่วมรุ่นทยอยแจ้งข่าวกันมา
ประมาณเดือนกันยายนปี 2539 ก็มีโอกาสรับประสบการณ์ตรง เหตุเกิดที่ถนนมาลัยแมน หน้าวัดวังตะกู จังหวัดนครปฐม นั่งรถรุ่นพี่ไปกู้สายเคเบิ้ลขาด ชนกับหกล้อที่เลี้ยวตัดหน้ากระทันหัน โชคดีที่ 4 ชีวิตในรถไม่มีใครเป็นอะไรมาก เจ็บเพียงระดับช้ำใน และมีแผลเลือดสดที่ไหล่ และสะโพกจากการกระชากรุนแรงของเข็มขัดนิรภัย นับว่าโชคดีมากๆ
กลับมากรุงเทพฯ ผมคิดว่าพ่อแม่ส่งเรียนเลี้ยงดูมา 22 ปี ถ้าผมเป็นอะไรขึ้นมา นี่ยังไม่ได้ทดแทนอะไรท่านบ้างเลย
ประกันชีวิต ตอบโจทย์นี้
สอง...ผมมีความรู้สึกดี ที่ประกันชีวิต ให้ผมเขียนชื่อผู้รับผลประโยชน์ไว้เลย กรณีเกิดเหตุเภทภัย
ซึ่งย่อมต้องเป็น "ชื่อคนที่ผมรัก"
ตอนทำงานใหม่ๆ ผมมีกรมธรรม์ที่เขียนให้ "แม่และน้องสาว"
ส่วนกรมธรรม์ที่ทำหลังแต่งงาน เขียนให้ "ภรรยาและลูกสาว"
เวลาส่งเงินรายปี ไม่มีความรู้สึกว่ามันเป็นภาระ มันยังเป็นเงินของผม ทยอยเติมเหมือนเป็นหลักประกัน
ประกันชีวิตเป็นการโอนย้ายความเสี่ยง ให้บ.ประกันช่วยดูแล เกิดอะไรขึ้น ได้เงินก้อนใหญ่แก่คนที่เรารัก
ไม่เกิดอะไร ก็ดีเยี่ยม เราก็ใช้ลดหย่อนภาษีไปทุกปีๆ แล้วรอรับเงินก้อนตอนสูงวัย
สาม..อยากใช้สิทธิลดหย่อนภาษีให้เต็มที่
หลักคิดนั้นเรียบง่าย คือ อะไรที่รัฐอนุญาตให้ลดหย่อนภาษีได้ มักจะมีประโยชน์ต่อตัวเรา ผู้อื่น และประเทศชาติ
ไม่ว่าจะเป็น การซื้อประกันชีวิต, ลงทุน SSF/LTF/RMF, ลงทุนใน Provident Fund, บริจาคสาธารณกุศล, คชจ.ท่องเที่ยว ฯลฯ
ในเมื่อ ประกันชีวิตให้ลดหย่อน ก็เลยซื้อ และซื้อเพิ่มตามวัย ผมมองเป็นการออมแบบนึง ที่ไม่ได้หวัง Yield แต่หวัง Protection
สำหรับกรณีท่านอื่นๆ ซึ่งย่อมมีเหตุผลส่วนตัวหลากหลาย ผมไม่สามารถตัดสิน ว่าประกันชีวิตควรซื้อหรือไม่
เพราะบางท่านฐานภาษีไม่สูง ประเด็นเรื่องการลดหย่อนหายไป ก็อาจจะไม่มีแรงจูงใจซื้อ
หรืออาจจะมองว่าการออมก็ไม่คุ้ม เพราะฉันเป็นคนเก็บเงินอยู่ และลงทุนเองได้ อันนี้เป็นเหตุผลของแต่ละท่านเลย
แต่! เหตุผลเรื่อง "การทำหลักประกันเพื่อคนที่เรารัก"...ยังคงอยู่ และผมเชื่อว่า เราทุกคน ล้วนมีคนที่เรารัก
ความเห็นส่วนตัวของผมคือ
ถ้ารายได้จากเรา อยู่ในระดับ "จำเป็นอย่างยิ่งยวด" เพื่อใช้ดูแลครอบครัว คนที่เรารัก ... มันจะ "หายไปหรือหยุดไปไม่ได้"
ในกรณีนี้การถ่ายโอนความเสี่ยง ไปสู่บริษัทประกันชีวิต ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
และผมคิดว่า การออมในหลายๆรูปแบบ หลายๆสินค้าทางการเงิน พร้อมป้องกันความเสี่ยงด้วย
ระยะยาวจะให้ผลดีเสมอ