"....อย่าเพิ่งรีบซื้อความสุขก่อนถึงเวลา...."

จำได้ว่าเมื่อก่อนตลาดหลักทรัพย์เปิดแค่ครึ่งวัน พอมีเวลาว่างก็ใช้เวลาไปออกกำลังกาย สมัครฟิตเนสที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แพงมาก เพราะเขาเก็บค่าสมาชิกปีละ 2 หมื่นบาท !!! แต่เราก็ต้องยอมจ่ายไป

เพื่อนๆที่ออกกำลังกายมีฐานะกันหมด ขับรถสปอร์ต ส่วนเราก็รถกระบะ เพื่อนๆออกกำลังกายเสร็จก็กินข้าวในโรงแรม ส่วนเรากลับไปกินข้าวที่บ้าน หรือกินแค่เกี๊ยวน้ำหมูแดงหน้าปากซอย

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ไอเราก็อยากพาลูกสาวไปเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำโรงแรม ผู้จัดการฟิตเนสเดินมากระซิบว่า ..

"ว่ายตรงนี้ไม่ได้นะครับ Member Only"

โอ้โห้ !!! ได้ยินประโยคนี้เข้าไป เจ็บจี๊ดๆ .....

เหตุการณ์ครั้งนั้นผ่านมา 10 กว่าปี พอเราเริ่มมีชื่อเสียง  ที่โรงแรมเดียวกันมีคนออกเงินซื้อ Member Fitness ระดับ VIP ให้แบบฟรีๆ แถมผู้จัดการคนนั้นยังออกมาต้อนรับ

... สังคมมันโหดร้ายจริงๆครับ ....
นี่คือเรื่องจริง ตอนเราไม่มี โอกาสมันก็มีให้เราน้อย
แต่ถ้าสักวันหนึ่งเรามีประสบการณ์ มีเครดิต มีชื่อเสียง พิสูจน์ได้ว่าเราเป็นคนดี (และมีเงิน) โอกาสก็จะมีให้เราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

กลับไปเข้าเรื่อง ... เห็นบางคนกำไรหุ้น 8 ล้านบาท ซื้อนาฬิกา Patek เรือนละ 700,000 บาท แบบนี้เรียกว่าเรารีบซื้อความสุขเร็วไป

ตอนนั้นความฝันของเรา คือ อยากขับเบนซ์ .. แต่ภรรยาบอกว่ารอให้มีเงิน 100 ล้านก่อน ค่อยซื้อ สุดท้ายเราก็พิสูจน์ตัวเองว่าเราทำได้

ต่อมาความฝันของเราคือ อยากขับรถสปอร์ตสักครั้ง ... แต่ภรรยาบอกว่าต้องมีเงิน 300 ล้านบาทก่อน ตอนนั้นเราไม่คิดว่าเราทำได้ แต่สุดท้ายเราก็ทำมันได้จริงๆ

พอกลับมาคิดย้อนหลัง หากเรารีบซื้อความสุขตั้งแต่แรก กินข้าวโรงแรมหรู ซื้อนาฬิกาหรู ซื้อรถเบนซ์ในขณะที่เรามีเงิน 30 ล้าน ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน พฤติกรรมเหล่านี้มันทำให้เราเสพย์ติดความฟุ่มเฟือยมากขึ้นเรื่อยๆ และเชื่อว่าสุดท้ายก็คงมาไม่ถึงวันนี้

มันไกลเกินฝันมากๆครับ