ในช่วงที่ผ่านมา เรามักจะได้ยินข่าวหลายๆข่าวเกี่ยวกับการควบรวมบริษัทหลายแห่ง หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า M&A ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการควบรวมกิจการของบริษัทหลายแห่งมีจุดประสงค์หลักก็เพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน (competitive advantage) ไม่ว่าจะเป็นเพื่อประโยชน์ทางด้านการลดต้นทุน หรือเพื่อขยายฐานธุรกิจก็ตาม จริงๆแล้วการซื้อบริษัทก็เหมือนการเลือกลงทุนในหุ้นอย่างหนึ่ง
เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่ของวงการ M&A ซึ่งเป็นดีลระหว่าง Berkshire Hathaway และ Precision Castparts โดย Berkshire Hathaway ได้ประกาศซื้อบริษัท Precision Castparts ด้วยเงินลงทุนกว่า USD 32 billion หรือราวๆ 1.1 ล้านล้านบาท ซึ่ง deal นี้นับว่าเป็นดีลการซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดสำหรับ Berkshire Hathaway
ดูเหมือนว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทที่ไม่ธรรมดาซะแล้ว.... ลองมาดูข้อมูลย่อๆของ Precision Castparts กันก่อนนะคะ
รายได้หลักของ Precision มาจากชิ้นส่วนสำหรับประกอบเครื่องบิน ส่วนรายได้รองมาจากธุรกิจในกลุ่มพลังงาน และน้ำมัน ...ลูกค้าหลักของบริษัทก็อย่างเช่น GE และ Boeing
แล้วทำไมปู่ถึงซื้อ?
ในช่วงปีที่ผ่านมาราคาหุ้นของ Precision ลดลงกว่า 20% ซึ่งทำให้หุ้นของบริษัทนี้เป็นที่น่าสนใจแก่นักลงทุนแนว Vi อย่าง Warren Buffett ที่มักพูดเสมอว่า ควรจะซื้อหุ้นในเวลาที่บริษัทเกิดปัญหาชั่วคราว จนทำให้ราคาหุ้นลดลงกว่าที่ควรจะเป็น และ สำหรับ Precision แล้วปัญหาที่บริษัทเจอก็คือ ราคาน้ำมันที่ลดลงในช่วงปีที่ผ่านมา แต่โดยเฉลี่ยแล้ว Precision มีรายได้มากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำไรมากกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
ก่อนหน้านี้ Warren Buffett ไม่เคยได้ยินชื่อ Precision มาก่อนเลย จนกระทั่งในปี 2012 Todd Combs หนึ่งใน Investment Manager ของ Berkshire ซื้อหุ้นใน Precision ประมาณ 3% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเหตุการ์นั้น Buffett ก็เริ่มที่จะคุ้นเคยกับชื่อของบริษัทนี้
Warren Buffett ใช้เวลาเพียงพูดคุยเพียง 30 นาทีในการตัดสินใจซื้อบริษัทนี้ หลังจากที่ Mark Donegan, CEO ของ Precision เข้ามาเจอ Warren Buffet ในช่วงเดือน กรกฏาคม ที่ผ่านมา อาจจะดูเหมือนว่า 30 นาทีสำหรับดีลมหาศาลเช่นนี้เป็นเวลาที่รวดเร็วมาก
เขาให้สัมภาษณ์ว่า การพูดคุยในวันนั้นใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง และเมื่อเขาดูไปที่ "แววตา" ของ CEO เขาก็ตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการเข้าซื้อบริษัทนี้
แต่สำหรับ Warren Buffett แล้ว เวลาเพียงแค่นั้นก็เพียงพอสำหรับการตัดสินใจ เนื่องจาก Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า เขาใช้เวลามากกว่า 8-9 ชั่วโมงต่อวัน ในการอ่านหนังสือ ซึ่งทำให้เขาสามารถเข้าใจธุรกิจได้อย่างถ่องแท้และรวดเร็วกว่า (แต่แน่นอนว่า เบื่องหลังคุณปู่มีนักวิเคราะห์อีกเป็นร้อยคนในการวิเคราะห์ตรวจสอบบริษัทนี้ เพียงแต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายมันเป็น "ศิลปะ" มากกว่า "วิทยาศาสตร์" เท่านั้นเอง!)
บทเรียนที่เราได้รับจากกรณีศึกษานี้ ก็คือ การดูผู้บริหารของบริษัทเป็นสิ่งที่สำคัญมากไม่น้อยไปกว่าการวิเคราะห์พื้นฐานของบริษัท ดังนั้นก่อนเพื่อนๆจะซื้อหุ้นบริษัทใด สำคัญมากว่าอย่าลืมเช็คประวัติผู้บริหารก่อนตัดสินใจซื้อหุ้นนะคะ
ที่มา: http://www.wsj.com/articles/in-precision-castparts-deal-warren-buffett-finds-his-type-of-ceo-1439243049
http://www.businessinsider.com/warren-buffett-on-berkshires-acquisition-process-2015-10
ติดปีกความรู้เรื่องหุ้น ไม่พลาดสิ่งที่คุณต้องรู้
ติดตาม LINE@stock2morrow