เราเรียนรู้อะไรจากหุ้น DELTA
DELTA ได้ 12 เด้ง แล้วเราได้เรียนรู้อะไร
ถ้าเรานั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปเดือนมีนาคม DELTA ราคา 27 บาท
วันเดียวกับที่ตลาดหุ้นทำจุดต่ำสุด 969 จุด
วันที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความกลัวจาก COVID
และวันนั้นเป็นวันศุกร์ที่ 13
คำถามคือ เราจะซื้อหุ้น DELTA มั้ย และถ้าเราซื้อ เราจะถือมาถึงวันนี้ที่หุ้นวิ่งไปทำจุดสูงสุดที่ 332 บาท หรือเปล่า
บางคนอาจจะบอกว่า ขายไปตั้งแต่ 40 บาท แล้ว
บางคนอาจจะเพิ่งมาซื้อที่หลักร้อย แล้วขายไปที่ที่สองร้อยกว่า
บางคนโชคดีเพิ่งซื้อเมื่อเช้า
บางคนบอกซื้อตอนปิดลุ้นพรุ่งนี้ไป 400
ตอนนี้ข้อสอบเฉลยแล้วว่า หุ้น DELTA เป็นหุ้นแห่งปี ทำผลตอบแทนได้ 12 เด้ง ใน 8 เดือน
นี้แหละมั้งที่เค้าเรียกว่า ขึ้นจนต้องร้องขอชีวิต
แล้วเราได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง มาช่วยกันคิดครับ
1. หุ้นเกิน 10 เด้ง มีอยู่จริง
ใครๆ ก็บอกว่า ตลาดหุ้นไทยไม่มีหุ้นเทค ไม่มีหุ้นเติบโตสูง การที่จะมีหุ้นโตได้หลายเด้งนั้นหายาก แต่ DELTA ทำให้เราเห็นว่า นี่ไง ชั้นทำได้ 12 เด้ง ไม่ถึงปี แต่ว่ามันมีหลายเหตุหลายปัจจัยนะ คือ ช่วงวิกฤตหุ้นลงเยอะ สินค้าเป็นที่ต้องการในสถานการณ์แบบนี้ มาร์จิ้นดีด้วย ปีที่แล้วกำไรแย่อีกต่างหาก และชั้นน่าจะได้เข้าไปอยู่ใน SET50
สิ่งที่ผมกำลังจะบอกคือ หุ้นเด้งมีอยู่ทุกปี อยู่ที่ว่าเราจะหามันเจอหรือเปล่า และเราอาจต้องการแค่ 1 เด้ง ก็ทำให้เรายิ้มได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องได้ 12 เด้ง แบบนี้ก็ได้
ปี 2021 เขียนแปะไว้ที่หัวเตียงครับ เราจะหาหุ้นเด้งให้ได้ เราจะหาหุ้นที่จะเป็น Next Delta ให้เจอ อย่างน้อยสุดท้ายปลายปี ไม่ได้ 100% ได้ซัก 30%, 50% ก็ยังดี
2. ไม่ต้องรอวิกฤต เพื่อเป็นเศรษฐี
ทุกวิกฤตจะมีเศรษฐีหน้าใหม่เกิดขึ้นเสมอ เพราะวิกฤตทำให้หุ้นร่วงทุกตัว ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี แต่สุดท้ายพอสถานการณ์เริ่มผ่อนคลาย หมอกควันเริ่มจางลง ตลาดก็จะเริ่มเห็นว่าหุ้นตัวไหนที่ดี ที่ได้ประโยชน์ หรือที่ยังเติบโตได้ ราคาที่ผิดเพี้ยนไปก็จะกลับมาสูงขึ้นมาก
ทีนี้เราไม่รู้ว่าจะมีวิกฤตครั้งใหม่เกิดขึ้นเมื่อไหร่ อาจจะอีก 10 ปี ก็ได้ แล้วในชีวิตจริงเราก็อาจจะไม่อยากเจอวิกฤตก็ได้ เพราะว่ามันทำให้ชีวิต และเศรษฐกิจย่ำแย่เหลือเกิน เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีวิกฤตให้ราคาหุ้นลงแรงๆ เราก็แค่ต้องทำการบ้านให้หนักขึ้นกว่าเดิม หาหุ้นที่น่าจะสร้างผลตอบแทนให้ดีให้เจอแทน วิกฤตไม่มา ก็หาโอกาสสร้างทางของตัวเอง
3. ซื้อต่ำสุด ขายสูงสุด พูดง่ายแต่ทำยาก
ซื้อ 27 บาท ถือลืมมา 8 เดือน ขาย 332 บาท ได้กำไร 12 เด้ง เงินหลักแสนกลายเป็นหลักล้านในไม่นาน ผมคิดว่าก็น่าจะมีคนทำได้อยู่บ้าง แต่คงจะไม่เยอะมาก แต่ที่สำคัญกว่าคือ เราไม่จำเป็นต้องไปพยายามซื้อที่จุดต่ำสุดของรอบ ขอแค่เรารู้ว่า ราคาที่เราซื้อ ความเสี่ยงต่ำ แพ้ยาก มี upside ที่สูง
เช่นกัน เวลาขายก็ไม่จำเป็นต้องขายที่ราคาสูงสุดก็ได้ ขอแค่อย่าขายหมูตัวใหญ่เกินไป ขายเมื่อคิดว่ามันเต็มมูลค่ามากๆ แล้ว ได้ผลตอบแทนที่พอใจ นั่นก็โอเคแล้วนะ
4. อย่าเสียดายที่ขายหมู ถ้าได้ทำตามแผน
DELTA กำไร 12 เด้ง แต่เรากำไรแค่ 1-2 เด้ง หรือกำไรแค่ 12% ก็อย่าได้เสียใจ ถ้าเราได้ทำตามแผนที่วางไว้แล้ว เราอาจจะคิดดีแล้วว่า จุดที่เราขายคือ มันเกินมูลค่าที่ควรจะเป็นไปมากแล้ว P/E 50 เท่าแล้ว P/E Band 3SD แล้ว ถ้าถือต่อก็นอนไม่หลับ ก็อย่าเสียใจและเสียดาย เพราะถ้าวันนี้ราคาหุ้นลง เราก็คงไม่พูดแบบนี้
5. อย่าดีใจที่กำไร ถ้าไม่รู้เหตุผลที่ซื้อ
ในมุมกลับกัน ถ้าเราโชคดี ซื้อ DELTA ตามคนอื่นมา โดยที่ไม่ได้รู้จักว่า ทำอะไร เห็นว่ามันขึ้นดี เห็นเค้าว่าได้ประโยชน์จากวิกฤต แล้วเราก็ถือมาเรื่อยๆ ไม่ได้ขายออกไป (คือในพอร์ตตัวที่ขาดทุนก็ไม่ได้ขายเหมือนกัน) สุดท้ายกำไรเยอะ แบบนี้อาจเรียกได้ว่า โชคดี แต่คราวหน้าถ้าคุณจั่วหุ้นผิดตัว อาจไม่ได้เป็นแบบนี้ก็ได้ ตลาดหุ้นไม่ได้ง่ายแบบนี้ทุกครั้งไป
6. กำไรเป็นเด้ง แต่พอร์ตไม่ขยับ
เพราะว่าเราอาจซื้อ DELTA แค่ไม่กี่ร้อยหุ้น ไม่กี่พันหุ้น ผลกำไร เป็นเปอร์เซ็นต์จะดูเยอะ แต่ไม่ได้ส่งผลให้พอร์ตรวมเราบวกเท่าไหร่ เพราะซื้อน้อยไป หรือเพราะมีหุ้นตัวอื่นขาดทุนฉุดเอาไว้
ถ้าเป็นแบบนี้ เราต้องพิจารณาเรื่องของ Money Management ใหม่ ถ้าเรามั่นใจว่า เจอหุ้นที่ดี ที่น่าจะเติบโตได้มาก เราต้องกล้าใส่เงินลงไปจำนวนที่มากพอ ที่จะพลิกพอร์ตเราได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะ All In หรือ ใช้มาร์จิ้นจนเกินตัว เพราะถ้ามันไม่ได้เป็นไปตามอย่างที่คาดไว้ เราจะเจ็บหนักแบบลุกขึ้นต่อไม่ได้เลย
7. จงพอใจกับปัจจุบัน สิ่งใดเกิดแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ
ไม่ว่าเราจะกำไร ขาดทุน หรือไม่ได้ซื้อหุ้น DELTA เราจงพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เราแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่เราเรียนรู้ได้ว่า เราพลาดตรงไหน เราสำเร็จตรงไหน แล้วครั้งหน้าเอาใหม่ทำให้ดีกว่าเดิม อย่าโกรธ อย่าบ่น อย่าโทษตัวเอง
บอกตัวเองครับว่า ปีนี้ฝากไว้ก่อน ปีหน้าเจอกัน หุ้นเด้ง ....