บทเรียนที่ 1 : ตลาดหุ้นปีนี้ผันผวนมากกว่าปีที่ผ่านมา
ถ้าเรารีวิวเมื่อต้นปีที่ผ่านมาก่อนเกิดโควิด จะได้ยินคำว่า "อู่ฮั่น" หรือโรคระบาด ซึ่งตอนนั้นยังไม่เข้าใจสถานการณ์ว่าจะรุนแรงขนาดนี้ พอรู้ตัวว่าระบาดไปทั่วโลกแล้ว ตลาดหุ้นถูกเทขายอย่างหนักทั่วโลก อย่างหุ้นไทยลงหนักช่วงมีนา-เมษา

ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า ถ้าหุ้น "เลือกทาง" แล้ว อะไรก็ฉุดไม่อยู่ ถ้าเลือกทางลงคือลงหนัก ถ้าเลือกขึ้นก็จะขึ้นหนักจนเราตั้งตัวไม่ทัน
... ดังนั้น จงเตรียมพร้อมอยู่เสมอ ...

บทเรียนที่ 2 : ถ้าเราพร้อม ตลาดจะมีสัญญาณเตือนก่อนร่วงแรง
สัญญาณเตือนที่ว่า คือในแง่ของพื้นฐาน และเทคนิคอล

ในแง่ของพื้นฐาน คือ เราขาดปัจจัยบวกมาสักพักใหญ่ๆแล้ว
ในแง่ของเทคนิค คือ สัญญาณ Divergence หลุดแนวรับ-แนวต้านสำคัญ ซึ่งถ้าหลุดแนวรับหรือเห็นสัญญาณ Divergence ในภาพใหญ่ควรจะลดพอร์ต ถือเงินสดไว้บ้าง หรือถ้าไม่อยากขายก็อาจจะหยุดซื้อหุ้นไปก่อน ถือเงินสดให้มากขึ้น
ดังนั้น ถ้าเราเป็นนักลงทุนพื้นฐาน ควรจะหันมาศึกษากราฟเทคนิคอลไว้บ้าง  ...

บทเรียนที่ 3 : โอกาสในเซอร์กิตเบรคเกอร์ ถ้าเราตั้งสติ มีสติอยู่เสมอ
ต้องยอมรับว่าปีนี้พึ่งเคยเห็นการเซอร์กิตเบรคเกอร์แบบรุนแรงมาก
... เปิดแล้วหยุดซื้อขายทันที เพราะโดนเซอร์กิตเบรคเกอร์ (หุ้นตก -30%)
ปกติจะเปิดกระโดดลงมา เทขาย แล้วค่อยเซอร์กิตเบรคเกอร์

ช่วงหยุดซื้อขาย ทุกคนกลัว ไม่กล้าซื้อ แต่จริงๆแล้วจังหวะนั้นเป็นจังหวะที่เรา "ต้องช้อน" หุ้นตัวไหนต่ำกว่ามูลค่า เรามีเงินเย็น มันถือเป็นจุดที่น่าซื้อจริงๆ ...

บทเรียนที่ 4 : ตลาดแข็งแรงหรือไม่ สังเกตได้จากข่าวและปฏิกิริยาของตลาด
ถามว่าเราพอมีจุดสังเกตหรือไม่ว่าตลาดช่วงนี้มีความแข็งแรงมากแค่ไหน
... เอาจริงๆก็ต้องบอกว่า "มี" นั้นคือสังเกตปฏิกิริยาของตลาดว่าขึ้นหรือลงแรง เมื่อข่าวนั้นออก

ในตอนนี้ หุ้นลงยาก แต่ขึ้นง่าย พอมีข่าวเรื่องวัคซีนหรือเลือกต้ังอเมริกา หุ้นดีดแรงทันที แต่พอมีข่าวร้ายหุ้นกลับไม่ค่อยลง เช่น คนติดโควิด หุ้นไม่ค่อยตอบสนองต่อเรื่องร้ายๆเท่าไร บ่งบอกว่าตลาดหุ้นไทยช่วงนี้แข็งแรงมาก

ในขณะเดียวกัน ย้อนหลังไปหลายเดือนก่อนหุ้นลงแรง มีข่าวร้ายหุ้นก็ลงต่อ ไม่ค่อยเด้งถึงแม้จะมีข่าวดี บ่งบอกว่าตลาดอ่อนแอ

ดังนั้น ในเรื่องของการลงทุน ต้องสังเกตจากข่าวและปฏิกิริยาตอบสนองของตลาดด้วย ...

บทเรียนที่ 5 : กราฟเดย์เหมาะกับคนชอบเก็งกำไร
ถ้าคนดูกราฟ จะรู้ว่าสัญญาณซื้อมาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ดังนั้น นักลงทุนต้องศึกษาเรื่องกราฟเทคนิคอลด้วย เรื่องของ Timing เพราะมันสำคัญมาก ไม่ว่าเราจะซื้อถือยาว ก็สามารถดูกราฟเดือนได้
... วิชาเทคนิคอลสำคัญ

บทเรียนที่ 6 : หุ้นท่องเที่ยวมีผลต่อหุ้นไทยมาก
หุ้นอเมริกา จุดเด่นจะเป็นหุ้นเทคโนโลยี พอเกิดโควิดขึ้นโดนกระทบนิดหน่อย สุดท้ายก็ทำจุดสูงสุดใหม่

หุ้นไทย จุดเด่นจะเป็นหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว พอเกิดโควิดขึ้นกระทบหนัก ทำให้ตลาดลงแรง จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ทำ New high เลย

ดังนั้นเรื่องของการท่องเที่ยวในเมืองไทยกลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจไทยไปแล้ว
คิดว่าในอนาคตประเทศไทยน่าจะอยู่ได้ด้วยการส่งออก ธุรกิจอาหาร การท่องเที่ยว

ถ้าการท่องเที่ยวกลับมาได้ เชื่อว่า ประเทศไทยก็จะกลับมาได้เหมือนกัน ...

บทเรียนที่ 7 : ช่วงหุ้นขึ้น เสียงกึกก้อง
จริงๆแล้วการลงทุนในหุ้น เป็นเรื่องไม่ง่าย
แต่พอหุ้นขึ้นคนเข้าใจว่าเล่นหุ้นมันง่าย ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจผิด แม้แต่เราที่อยุ๋ในตลาดมานาน เห็นอะไรมาก็เยอะ ยังรุ้สึกอยากซื้อหุ้นเลย

ถ้าเราวิเคราะห์แล้วเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องจิตวิทยา ความโลภ-ความกลัว
สิ่งที่แบ่งแยกชัดเจนว่าเราจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ก็คือ คุมอารมณ์ความกล้าและความกลัว ให้ได้

ยิ่งช่วงไหนที่หุ้นขึ้นเร็วๆ ใครก็กำไร เป็นจุดทีต้องระมัดระวังให้มาก

บทเรียนที่ 8 : เดือนธันวาคม ชี้ชะตาหุ้นไทย
ถ้าเราดูกราฟรายเดือน จะเห็นว่ากราฟกำลังจะตัดขึ้น ถ้าหุ้นขึ้นแรงๆพร้อมวอลุ่ม ปีหน้าทั้งปีเราอาจจะเป็นขาขึ้นแบบจริงจัง

บทเรียนที่ 9 : ตลาดขึ้น ไม่ใช่ว่าหุ้นทุกตัวจะขึ้น
ต้องยอมรับว่าหุ้นขนาดเล็ก จะให้ผลตอบแทนดีกว่าหุ้นใหญ่ แต่เชิงพื้นฐานมีความเซนซิทีฟมากกว่า คือเหวี่ยงตัวแรงมากกว่า
ดังนั้น นักลงทุนที่อยากได้ผลตอบแทนเป็นเท่า หรือหุ้นเด้ง อาจจะต้องเลือกหุ้นขนาดเล็กที่ปัจจัยพื้นฐานดี ต้องค้นหากลับไปทำการบ้าน

บทเรียนที่ 10 : รู้จักหุ้นทุกตัวที่ถือ จะปลอดภัยและมีกำไร
อันนี้พูดถึงเรื่องพื้นฐาน อย่าไปถามคนอื่นว่าซื้อตัวไหนดี แบบนี้ไม่มีประโยชน์แถมมีความเสี่ยงด้วยเพราะเราไม่รู้ว่าเขาคนนั้นซื้อเพราะอะไร

ดังนั้น เราจะต้องศึกษา ต้องเข้าใจในหุ้นตัวที่เราจะซื้อ อย่าไปเชื่อใคร
เวลาซื้อมีคนบอก แต่เวลาขายไม่มีใครบอก อาจจะทำให้กำไรกลายเป็นขาดทุน หรือติดดอยกันได้เลย

สุดท้ายจบปี 2020 จะถือเป็นปีประวัติศาสตร์ที่จะถูกพูดถึงกันไปอีกนาน เป็นปีวิกฤตที่ใครสามารถผ่านมาได้ (ยังไม่ต้องพูดถึงกำไรหรือขาดทุน) ยังอยู่ในตลาดเชื่อว่าจะเก่งขึ้นอย่างแน่นอนครับ