ปี 2563 ต้องบันทึกไว้ว่า เป็นปีที่ "ธุรกิจท่องเที่ยว" อยู่ในปีชงตรงๆโดยแท้ ทั้งที่เป็นธุรกิจความหวังของคนไทย เราทำสิ่งนี้ได้ดีที่สุด คนต่างชาติล้วนอยากมาเที่ยวเมืองไทย และเรามีแขกบ้านแขกเมืองต่างชาติปีละ 40 ล้านคน
แต่ปีนี้...เป็นปีที่ได้รับผลกระทบหนักแบบ แทบไม่สามารถจินตนาการได้เลย
ไล่มาตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ “สนามบิน สายการบิน รถเช่า มัคคุเทศก์ โรงแรม สปา ร้านอาหาร ร้านของฝาก ดิวตี้ฟรี โชว์บิซ ร้านนวดแผนโบราณ ฯลฯ”
"ธุรกิจโรงแรม" เป็นหนึ่งในนั้น
.
.
ธุรกิจโรงแรม ว่าที่จริง คือโดนกระทบหนัก ถูกยกเลิกการเข้าพักมาตั้งแต่ตรุษจีน...โดนต่อมากุมภาพันธ์... ข้ามมาสงกรานต์ และหมดโอกาสกับพฤษภาคม ที่มีสารพัดวันหยุด ยิงยาวต่อไปเรื่อยมาจนถึงไตรมาสสี่
แม้ว่าจะย่างเข้าสู่หน้าหนาวแล้ว โรงแรมหลายแห่งยังอาการหนักอยู่ เพราะลูกค้าหลักเป็น
-> ต่างชาติ ...ยังบินเข้าไม่ได้
-> ลูกค้าองค์กร...การประชุมสัมมนาตามโรงแรม เศรษฐกิจไม่ดี ถูกตัดงบกันอุตลุด
ทำเลนักท่องเที่ยวต่างชาติระดับพื้นที่ทองฝังเพชร อย่าง ถนนข้าวสาร ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา สีลม สมุย ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ ฯลฯ เงียบเหงาลงไปมาก ทั้งที่เข้าสู่ช่วงปลายปี ถึงปีใหม่ เป็น "หน้านา" ที่ควรต้องเก็บรายได้และกำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำ แต่ไม่ใช่สำหรับปีโควิดนี้
โรงแรมเชนบางแห่ง เลือกที่จะปิดโรงแรมชั่วคราวบางทำเล ในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด แล้วย้ายพนักงานไปรวมกัน ทำงานในสาขาที่ยังพอเปิดได้ หรือทำโครงการอื่นๆ เพื่อการลดต้นทุนอย่างเข้มข้น รอวันฟ้าเปิด
.
.
ในเชิงหุ้น
แม้จะมีข่าวการพัฒนาวัคซีนเป็นที่น่าพอใจเข้ามาแล้ว เอาจริงๆก็ยังไม่ค่อยมั่นใจกับหุ้นโรงแรม หลังวิกฤตโควิดในปีหน้า
เพราะกว่าจะผลิตวัคซีนจริง...กว่าจะกระจายวัคซีน...กว่าจะได้ฉีดกันทั่ว...กว่าจะประกาศทราเวลบับเบิ้ล (เดาว่าไทยน่าจะเริ่มจับคู่กับ จีน กับญี่ปุ่น ก่อน) ...กว่าจะทยอยเข้ามาเที่ยวแบบไม่ต้องแทงจมูก ฯลฯ
วิกฤตไวรัสทำให้สมมติฐานทางธุรกิจต่างๆและ outlook ของกลุ่มโรงแรม เปลี่ยนไปมาก
เราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าการท่องเที่ยวในประเทศ การท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะกลับมาอีกครั้งเมื่อไหร่ ปีหน้ามาไหม จะมาเป็น U Shape หรือ J Shape หรือ L shape
.
.
หุ้นโรงแรมอย่าง MINT CENTEL ERW ทั้ง 3 ตัว แม้ว่าปีนี้ ราคาปรับลดลงมามากอย่างเหลือเชื่อ และเด้งขึ้นมาพอสมควรจากข่าววัคซีน แต่ก็ยังต้องคำนึงถึงความเสี่ยงในปีหน้าอยู่ และเมื่อโลกนี้คุมโควิดได้ดีแล้ว ผมยังเชื่อว่าหุ้นโรงแรมไทย 3 ตัวใหญ่นี้จะฟื้นได้ ไปสู่ช่วง Pre-Covid... แต่จะใช้เวลานานเท่าไหร่ เป็นปีไหนนั่นอีกเรื่องนึง
คหสต. ก็ยังคิดว่า การทุ่มซื้อเป็นเงินก้อนใหญ่ ยังอาจจะดูเสี่ยงไปหน่อย
ปีหน้า งบการเงินคงยังไม่ฟื้นได้มากเท่าไหร่ .... ราคาหุ้นจะกระแทกอีกไหม จะฟื้นยาวๆเมื่อไหร่ เพราะโควิดต้องจบพร้อมกันทั่วโลก จึงจะฟื้นยาวๆได้
ถ้าอยากได้หุ้นโรงแรมมากๆแบบกลัวๆกล้าๆ การทยอยเข้าซื้อเช่นเลือกทยอย DCA ตัวใดตัวหนึ่งไปเรื่อยๆเก็บช่วงตกท้องช้างไป ถัวสะเทือนใจในราคาซึมๆ ถ้ามันซึมไปอีกปี เราก็เฉลี่ยต้นทุน หลงจ๊งคงลบไม่มาก งานนี้เหมาะกับผู้รับความเสี่ยงได้สูงเท่านั้น
ถ้ามันไม่กลับมาอีกเลยเราก็ เสียหายไปส่วนนึง...ถ้ามันผ่านช่วงย่ำแย่ แล้วฟื้นกลับมาดีได้ ก็มีเฮกันครับ