ตลาดหุ้นชอบความชัดเจน
เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจบ ชัดเจนว่า โจ ไบเดน ได้เป็นผู้นำคนใหม่
วัคซีนมีความชัดเจนว่าได้ผลดี ทั้ง Pfizer Biontech และ Moderna
ผลที่ตามมาคือ ตลาดหุ้นขึ้นแรงในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วย เมือเดือนก่อน SET ยังวนเวียนแถว 1200 จุด มาวันนี้กลับขึ้นมาทะลุ 1400 จุด แล้ว พร้อมกับการไหลเข้าของเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติ และแน่นอนหุ้นใหญ่ทั้งหลายที่ราคาลงมาลึกตั้งแต่ต้นปี ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร โรงแรม ท่องเที่ยว โรงพยาบาล ต่างดีดตัวกลับขึ้นไปกันหมด
คำถามที่น่าสนใจคือ
เราควรเดินหน้าซื้อหุ้นต่อ เพราะตลาดน่าจะเป็นขาขึ้นแล้ว
เราควรพักก่อนรอดูท่าที ตลาดย่อ ค่อยว่ากันใหม่
เราควรขายทำกำไร ขายหมู ดีกว่าติดดอย
เราไม่สนใจตลาดมากนัก หุ้นตัวไหนงบดี หุ้นเล็ก กลาง ใหญ่ ราคาดีก็ลุยกันไป
ผมอยากฝากแนวคิดว่า คงต้องขึ้นอยู่กับแผนการลงทุนของแต่ละคนแบบนี้ครับ
1. หุ้นใหญ่ พื้นฐานดี มีอนาคต
หุ้นธนาคาร โรงแรม ท่องเที่ยว สายการบิน ในมุมหนึ่งราคาลงมาแรง แต่แน่นอนว่ากว่าผลประกอบการจะฟื้นก็ต้องรอเศรษฐกิจกลับมา นักท่องเที่ยวกลับมา กว่าที่งบจะออกมาดีจริง ก็คงเห็นกันปี 2022 เป็นอย่างน้อย
แต่เพราะตลาดหุ้นมักจะเป็นดัชนีชี้นำล่วงหน้าก่อนความจริงปรากฎเสมอ ทำให้ราคาหุ้นสะท้อนในมุมของความหวังและขึ้นไปก่อนล่วงหน้า เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะลงทุนหุ้นใหญ่เราต้องวางแผนให้ดีก่อนว่า
- ราคาหุ้นต่ำจริง พื้นฐานดี อนาคต 5-10 ปี ยังไงก็ดี ถ้ามองมุมนี้ ก็ลงทุนยาวไป ติดตามผลประกอบการเป็นระยะควบคู่ไปกับข่าวเศรษฐกิจและวัคซีน แต่ราคาหุ้นก็คงมีขึ้นมีลงระหว่างทาง อย่าไปกังวล
- ราคาหุ้นต่ำจริง แต่งบก็จะยังไม่ดีอีกหลายไตรมาส ถ้าระหว่างทางสถานการณ์เปลี่ยน เศรษฐกิจแย่กว่าคาด ราคาก็อาจจะไหลลงมาได้อีก แปลว่า ถ้าใครจะเก็งกำไรระยะสั้นต้องพิจารณาดีๆ
2. หุ้นเติบโต โดนขายทำกำไร
หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ หุ้นเครื่องดื่ม หุ้นร้านค้าปลีกไอที หลายบริษัทที่เคยขึ้นแรงก่อนหน้านี้ ก็ถูกเทขายทำกำไรกัน แล้วสลับกลุ่มเข้ามายังหุ้น Value Play มากขึ้น ถ้าเราถือหุ้นกลุ่มนี้ สิ่งที่เราต้องถามตัวเองคือ
- ราคาที่ขึ้นมาก่อนหน้านี้ เต็มมูลค่าหรือยัง แพงไปแล้วหรือเปล่า
- การเติบโตในอนาคตยังไปได้อีกมากแค่ไหน เมือเทียบกับราคาที่ปรับฐานลงมา ตอนนี้คือโอกาสที่จะเข้าไปซื้อมั้ย จากที่เมื่อก่อนเราบ่นว่าเสียดาย ซื้อไม่ทัน ตอนนี้ใช่โอกาสในการซื้อมั้ย
3. หุ้นกลางเล็ก ตลาดไม่สนใจ
ถ้าเราถือหุ้นกลางเล็ก เราจะต้องถามว่า ตลาดบวกเป็นร้อยจุด ไปบวกตัวไหน ทำไมหุ้นเราไม่ขยับ ทำไมพอร์ตเราไม่เปลี่ยนสีเหมือนคนอื่นเขา เราก็ต้องพิจารณว่า
- หุ้นที่เราถือได้ประโยชน์อะไรกับเขาบ้างมั้ย ขนาดใหญ่พอที่อยู่ในลิสต์ของกองทุนต่างชาติหรือเปล่า ได้ประโยชน์จากวัคซีนมั้ย ถ้าไม่เกี่ยวอะไรกับใครเลย ก็ไม่แปลกที่จะไม่ขึ้น
- งบดีมั้ย กำไรเป็นอย่างไร ถ้างบดี กำไรเติบโต และน่าจะโตต่อไปได้ แต่ราคาหุ้นไม่ไปไหน จังหวะนี้ก็อาจจะเป็นโอกาสที่ตลาดมองข้ามไป เพราะไปซื้อหุ้นใหญ่กันอยู่ แต่พอเวลาผ่านไป ตลาดก็น่าจะกลับมามองเห็นว่า หุ้นพวกนี้ก็มีดี ถ้าแบบนี้ก็แค่รอเวลา
4. หุ้นปั่น หุ้นซิ่ง งบไม่ดี ไม่มีอนาคต
คำตอบอยู่ในตัวอยู่แล้ว ว่าถ้าเราลงทุน คงหวังเก็งกำไร ระยะสั้น ตอนที่หุ้นขึ้นมาแรง จะด้วยสตอรี่ตามน้ำไป เกากระแสตลาด ข่าวโคมลอย หรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าเราซื้อหุ้นแบบนี้ เราตอบได้เองว่า ผลงานไม่ปรากฏ ไม่มีอนาคต เราก็คงต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะตามมา วางแผนเก็งกำไรตามความซิ่งของหุ้นกันไป
เพราะฉะนั้น การที่ตลาดขึ้นมาแรง อาจจะไม่สำคัญเท่ากับความเข้าใจในแผนการของเราว่า เราลงทุนแบบไหน หลักการคืออะไร และเป้าหมายที่เราต้องการอยู่ตรงไหน เพราะถ้าเราเข้าใจก็จะทำให้เราเลือกได้ถูกวิธีว่าจังหวะนี้ควรลุย รอ หรือถอยดีกว่า