พี่ครับ กระดาษบาดมือ ช่วยผมด้วย
แผลไม่ลึกมาก วัดขนาดได้ 34.25 ลึกประมาณ 3 ช่อง
ตอนนี้ยังเจ็บไม่มาก แต่กลัวว่าปล่อยไว้ แผลมันจะลามกว่านี้
ผมคิดว่า น้องเค้าคงได้แผลมาจากหุ้น SCGP ที่ประกาศงบออกมากำไรเติบโตลดลงจากที่คาดกันว่าน่าจะเป็นบวก เรามาช่วยกันรักษาแผลน้องเค้ากันครับ
>> ผล Q3 กำไรสุทธิ 1,335 ล้านบาท -9.2% YoY ผิดคาดจากที่นักวิเคราะห์มองว่ากำไรน่าจะเติบโต
>> แต่มีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 111 ล้านบาท (หลังหักภาษีและส่วนได้เสียบริษัทย่อย) ถ้าคิดกลมๆ ก็น่าจะลดลงจากปีที่แล้วนิดหน่อย ก็ยังไม่เป็นบวกอยู่ดี
>> รายได้ 23,287 ล้านบาท -5% YoY +8% QoQ แปลว่า ดีขึ้นหน่อยจากช่วง COVID แต่ว่าภาพรวมยังไม่ฟื้นจากปีที่แล้วเท่าไหร่
87% ของรายได้ คือ บรรจุภัณฑ์กระดาษครบวงจรเติบโต -1%
13% ของรายได้คือ เยื่อและกระดาษลดลง -22%
ธุรกิจที่ดีคือ อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าเพื่อสุขภาพ ดีจาก COVID, e-commerce และ delivery ส่วนธุรกิจที่ยังดูไม่ดีคือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ พอรวมกันแล้วยังไม่เติบโตเท่าไหร่ ทำให้ฉุดรายได้ของ SCGP ลง
>> บรรจุภัณฑ์ที่เห็นลบน้อยเพราะมีการซื้อกิจการบริษัท Visy Packaging เข้ามาปีที่แล้วพอรวมงบเลยเติบโต
>> เยื่อกระดาษ ลบเยอะ เป็นผลมาจาก Work From Home สลับวันเปิดปิดโรงเรียน เปิดเทอมช้า การใช้กระดาษเลยลดลง
>> ถ้าดูรายประเทศจะเห็นว่า เวียดนามดูดี ส่วนไทยฟื้น QoQ ส่วนอินโดกับฟิลิปปินส์ ยังดูแผ่วอยู่จากผลกระทบของ COVID
ถึงแม้ว่ารายได้จะดูไม่ดีมากนัก แต่ว่า ต้นทุนดีลดลงได้มากกว่า -5% ทำให้ GPM เพิ่มจาก 19.5% เป็น 19.7%
ค่าใช้จ่ายการบริหารก็ดี -7% ดูมาถึงตรงนี้กำไรก็น่าจะเป็นบวกอยู่
แต่สิ่งที่มากดกำไรเพิ่มเติมคือ ต้นทุนการจัดจำหน่าย +5% จากค่าขนส่งเพิ่มขึ้น จำนวนตู้ จำนวนเรือ มีจำกัดในช่วง COVID และการขาดทุน Fx ที่พูดถึงตอนต้นทำให้ EBIT ลดลงจาก 10.7% เหลือ 9.9%
ยังโชคดีที่ต้นทุนการเงินมาช่วยไว้อีกหน่อย -11% ทำให้กำไรสุทธิหายไม่เยอะ และ NPM ลดลงจาก 6% เหลือ 5.7%
===============
คำถามต่อมา คือ แนวโน้ม Q4 ดีมั้ย ...
1. ที่เวียดนาม มีขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว (Flexible Packaging) เพิ่ม 84 ล้านตารางเมตรต่อปี คิดเป็น +26%
2. ที่เวียดนามเช่นกัน ดีลการซื้อกิจการ SOVI น่าจะเสร็จ รวมงบเข้ามาได้
3. Demand สินค้าอาจจะเริ่มดีขึ้นพวกของกินของใช้ และเปิดโรงเรียนแล้วกระดาษก็น่าจะใช้มากขึ้น รวมทั้งลุ้นให้ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้ากลับมาดี แต่ว่าที่อินโดกับฟิลิปปินส์คิดว่าคงยังไม่ฟื้นแรง
ต่อมา แนวโน้มปีหน้าดีมั้ย
การเพิ่มกำลังการผลิต 3 ประเทศ คือ
>> อินโดนีเซีย ขยายกำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ลูกฟูก และ กระดาษกล่องเคลือบขาว เพิ่ม 400,000 ตันต่อปี คิดเป็น +29% เสร็จ Q2
>> ไทย ขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว เพิ่ม 53 ล้านตารางเมตรต่อปี คิดเป็น +18% เสร็จ Q3
>> ฟิลิปปินส์ ขยายกำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ลูกฟูก เพิ่ม 220,000 ตันต่อปี คิดเป็น +96% เสร็จ Q3
นอกจากนี้ก็มีเรื่องแผนการซื้อกิจการเพิ่มเติม คืนหนี้ลดภาระต้นทุนการเงิน และลุ้นให้ COVID ดีขึ้น กำลังซื้อกลับมา
โดยสรุป SCGP รายได้ กำไร ดูทรงๆ เริ่มฟื้นอ่อนๆ จากช่วง COVID ได้ประโยชน์จากต้นทุนขาย แต่ค่าขนส่งกดดัน และปัจจัยที่กระทบแบบคาดการณ์ลำบากคือ เรื่องของค่าเงิน แต่ปัจจัยบวกคือเรื่องของการขยายกำลังการผลิต กับควบรวมกิจการก็ยังน่าสนใจอยู่
น้องต้องลองพิจารณาดูครับว่า หุ้น SCGP หุ้นขนาดใหญ่มีการเติบโตแบบนี้ แผนอนาคตแบบนี้ P/E 24-25 เท่า ปันผลคงไม่เยอะ น้องชอบมั้ย
.... น้องพยักหน้าเข้าใจ และปิดพลาสเตอร์ที่ฝ่ามือ พร้อมพูดว่า
"พี่ครับ ที่ผมปวดใจคือ ผมรีบตื่นแต่เช้าไปธนาคารเพื่อจองหุ้น แล้วยังมาติดดอย"