SET ยังคง On Saleต่อไป...ต่างชาติก็ขายหนักต่อไป
1. การลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ ช่างน่าอึดอัด จุกอก ยกไม่ออก บีบครบทั้ง 4 ห้องหัวใจ
2. ปีนี้ ตลาดหุ้นไทย โดนสารพัดปัจจัยลบ ... ลบแบบเรียกได้ว่า ตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง 40 เป็นต้นมา ... วิกฤตโควิด อำมหิต 63 น่าจะใกล้เคียงที่สุด
สารพัดปัจจัยรุมกดดันตลาด โดยมิได้นัดหมาย ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ ปิดเมือง สังคม การเมือง โรคระบาด ว่างงาน ปิดการเดินทาง(ระหว่างประเทศ) ฯลฯ
3. เหตุผลใหญ่อีกข้อนึง คือ ปีนี้ นักลงทุนต่างชาติ "ขายทิ้งหุ้นไทย" อยู่ในเกณฑ์เลวร้าย พี่ขายโหดเหมือนโกรธใครมา
4. ลองย้อนดูอดีต 10 กว่าปีล่าสุด
-> ปีที่ต่างชาติขายรุนแรงที่สุด คือ 2018 ...ทั้งปีขายไป 2.87 แสนล้าน
-> ปีวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ 2008 ที่ว่าแรง ...ทั้งปีต่างชาติขายไป 1.6 แสนล้าน
แต่ปี 2020 ปีวิกฤตโควิด19 ทั้งที่ยังไม่ครบปีดี ... ต่างชาติขายหุ้นไทย Year to date (YTD) รุนแรงถึง 2.95 แสนล้าน
นี่เป็นตัวเลขการขายสุทธิที่รุนแรงเป็นอันดับ 1 ในประวัติศาสตร์ตั้งแต่มีสยามประเทศไปแล้ว และมีแนวโน้มว่า ยังคงทิศทางเดิมต่อไป ไม่กลับเทรนด์เร็วๆนี้ นี่เป็นเทรนด์ Risk Off (ลดความเสี่ยง)
5. ด้วยภาพ Fundflow YTD นี้ ดูจากกราฟจะเห็นว่า ฝั่งตรงข้ามกับต่างชาติ(เส้นเขียว) ที่ขายหนัก คือ นลท.รายย่อย (เส้นน้ำเงิน) ที่ช่วยซื้อมากสุด รองลงมาจึงเป็น นลท.สถาบันฯ (เส้นส้ม) ที่อ่อนแรงไปมากตั้งแต่ยกเลิก LTF ไป
ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ต่างจากปี 2018 ... ปีนั้น นลท.สถาบันอยู่ในฝั่งซื้อสูงสุด ช่วยยันราคาหุ้นใหญ่ พลังงาน ธนาคาร สื่อสาร และค้าปลีก ใน SET50 จึงไม่เสียทรงมาก
6. มาปีนี้ นลท.รายย่อย เป็นฝ่ายซื้อหลัก
เราจึงได้เห็นอภินิหาร หุ้นกลาง หุ้นเล็ก หุ้น IPO และหุ้นที่ได้ประเด็นบวกช่วงสั้น สามารถสะบัดขึ้นลง ระดับ ceiling / floor ได้เลย ผันผวนระดับลึกล้ำ
สะท้อนภาวะการ "ขาดหุ้นเล่น" ในระยะสั้นนี้ได้ดี
7. ในภาวะแบบนี้ นักลงทุนรายย่อยทำอะไรมากก็ไม่ได้ นี่ไม่ใช่ปีที่ปกติเลย
ลองคิดเร็วๆ ที่เห็นทำกันเยอะๆ จะไม่พ้นสามวิธีนี้
หนึ่ง... ย้ายเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นที่เพิ่งขึ้นมากๆ performance 3M, 6M, YTD, 1Y, 2Y ดูดีมากๆ อย่าง หุ้นนอก หุ้นเทคโนโลยี หุ้นเฮลท์แคร์ หุ้นจีน หรือแม้แต่ ทองคำ
สอง...ทยอยเก็บหุ้นไทยไปเรื่อยๆ บ้างก็ DCA บ้างก็กำเงินซื้อเป็นก้อนๆกับหุ้นที่ on sale บางกลุ่มแทบจะ Clearance Sale ลงมามากมายในปีนี้เกือบ -50%
สาม...wait and see กำเงินรอ เก็บกระสุน รักษาไพร่พล
8. ทุกกลุ่ม Big Cap ของไทย ยังมีปัจจัยกดดัน ไม่ว่าจะแบงค์ (กลัว NPL), พลังงาน ปิโตรฯ (ราคาคอมโมไม่ฟื้น), ขนส่ง (ยังไม่เปิดประเทศ demand ไม่กลับมา), ค้าปลีก ท่องเที่ยว ห้าง โรงแรม (demand ซึม ต่อเนื่อง และปิดประเทศยาวนานกว่าคาด)
9. ถ้าหุ้นไทย ไม่มีตัวช่วย ระดับอิทธิปาฏิหารย์ เร็วๆนี้ อย่าง
-> วัคซีนที่พัฒนาเสร็จ พร้อมฉีดในปีหน้าทั่วโลก
-> เจอวิธีรักษาที่ประหยัด ถูก ไม่ตาย และไม่อันตราย
-> หรือหลังเลือกตั้ง US เกิดการย้ายของเงินทุน จาก DM (developed market) มา EM (emerging market) ที่ตกต่ำกว่าเพื่อนอยู่ตอนนี้
ถ้าไม่มีอะไรแบบนี้ ... หุ้นไทย ก็คงซึมลง ซึมลง และซึมลง
10. ระหว่างนี้ เหล่าเม่าปีกเหล็กอย่างเรา ก็ขอมองตลาด ข้ามไปปีหน้าเลย ตั้งแต่ Q2 2021 เป็นต้นไป ผลประกอบการ YoY มันจะดีขึ้นแน่ๆละ เพราะเทียบกับฐานต่ำในปีนี้ แต่จะดีกลับมาเหมือน Pre-COVID ไหมนั่น อาจจะต้องบวกเพิ่มไปอีก 1 ปี
ถ้าคุณเชื่อใน Business Cycle วัฏจักรเศรษฐกิจ
หรือ วัฏจักรการ Rotation ของเงินทุนทั่วโลกที่ล้นระบบ
ผมคิดว่าตลาดหุ้นไทย ยังไงก็มีวันฟื้นได้ และจะฟื้นแน่ๆครับ
จะเมื่อไหร่เท่านั้นเอง