คงต้องยอมรับว่าปี 2563 ในเชิงการลงทุนหุ้นไทย จัดเป็นปีที่ไม่ปกติ และไม่ดี
นับจากเดือนกุมภาพันธ์ 63 ยังไม่มีทีท่าว่า "ปัจจัยลบ" จะเพลามือให้กับเราเลย
โควิด 19 ทำลายล้างธุรกิจส่วนใหญ่และ โหดร้ายพิเศษเฉพาะกับประเทศที่พึ่งพาธุรกิจระหว่างประเทศอย่างเรา

-> รายได้ลดลง...จากการผลิตและการส่งออกที่เราไม่ full capacity มาแรมปี
-> รายได้ลดลง ... จากการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่เป็นสินค้าหลักของไทย

โควิด กินเวลามาเป็นเดือนที่ 9 เผาผลาญธุรกิจไปจำนวนมาก
การระบาดเวฟ2 เกิดขึ้นหลายที่ทั่วโลก สุดท้ายแล้วประเทศส่วนใหญ่ เลือกที่จะเปิดประเทศ แล้วบาลานซ์การดูแล ทั้งสงครามเศรษฐกิจ และสงครามโรคระบาด
เพราะประเทศส่วนใหญ่รู้ว่า การล็อคแน่น..อาจจะกันโรคระบาด
แต่ "โรคไม่มีสักบาท" ก็น่ากลัวไม่แพ้กัน

ผู้คนทนทุกข์ ท้องหิวไร้งานไร้เงิน มองไปไร้อนาคต  สุดท้ายความปั่นป่วนทางสังคมก็จะตามมา
เรารู้ผลการตัดสินใจผ่อนคลาย "สู้โรคพร้อมกับพยุงเศรษฐกิจ" ของประเทศส่วนใหญ่แล้ว...ของไทยเรา คิดว่าคงเห็นแนวทางก่อนสิ้นปี

ปัจจุบัน กลางเดือนตุลาคม
ปัญหาเวฟสองที่เรากังวลยังไม่มา  
แต่ปัญหาเรื่อง "กำลังซื้อของคนไทยลดลง" มาแบบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
มาตรการการช่วยเหลือต่างๆ (พักชำระดอก ต้น) จบลงที่เดือนนี้
หนี้แบงค์ ที่เคยต้องผ่อน ก็ต้องกลับมาจ่ายกันทุกครอบครัวแล้ว
คนเริ่มระวังการใช้จ่าย ผมสังเกตได้ว่า วันหยุดยาวที่ผ่านมา 2 ครั้ง การเดินทางท่องเที่ยวรถติดแบบช่วงเดือน ก.ค. ส.ค. ดูลดลงแบบรู้สึกได้

ล่าสุด...ก็มีเรื่องการเมืองเพิ่มเติมให้ซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก
จัดเป็นวิกฤติ(เศรษฐกิจ)... ซ้อนวิกฤติ(โควิด)...และซ้อนวิกฤติ(การเมือง)เข้าไปอีกที
คนค้าขาย คนทำธุรกิจ ต้องเข้มแข็งขนาดไหนที่จะฝ่าฟันสารพัดปัจจัยลบเหล่านี้ไปได้

โดยส่วนตัว...นาทีนี้ คิดว่านักลงทุนหุ้นไทยส่วนใหญ่กำลังพยายามทำใจให้สงบ
และรอรับแรงกระแทกใดๆก็ตามที่จะเกิดขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้
ถือคติ
"สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ"

เงินสดหน้าตักก็ต้องมี หุ้นที่ติดก็ปล่อยไปก่อน
ตลาดหุ้นลง ก็เหมือนฝนตกครับ
ตกติดกันมาหลายวัน ตกหนักตกนานยังไง วันนึงก็ต้องหยุดแน่ๆ
แล้วแดดอุ่นจะมาครับ