หุ้น CPF เป็นหุ้นอีกตัวที่เก็งกำไรค่อนข้างยาก และมีปัจจัยภายนอกค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นราคาหมู ราคาไก่ ราคากุ้ง ราคาวัตถุดิบกากถั่วเหลือง ข้าวโพด ล้วนมีผลกระทบต่ออัตรากำไรของ CPF
หุ้น CPF ราคาขึ้นมาจากราคา 20 บาท ขึ้นมาม้วนเดียวแตะระดับ 35 บาท ในไม่กี่เดือนโดยมีเหตุว่าราคาหมูสูงขึ้น แต่ราคาก็ร่วงลงมาที่ระดับ 26 บาท อย่างรวดเร็ว โดยที่ราคาหมูยังสูงแต่ราคาวัตถุดิบก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ประเด็นนี้ เราควรจะมองเป็นโอกาสหรือความเสี่ยง ... มาดูกันครับ
บล.ฟิลลิป วิเคราะห์ว่า ผลประกอบการของ CPF ที่กำลังจะประกาศไตรมาส 3 ทุบสถิติจากราคาหมูที่สูง
1. ธุรกิจสัตว์บกในไทยและเวียดนามดีมาก
2. ธุรกิจกุ้งราคายังทรงตัว แต่ปริมาณขายเพิ่มขึ้น
3. กำไรจาก CPALL เริ่มฟื้นตัว
4. บริษัทจะมีกำไรพิเศษประมาณ 5.6 พันล้าน
แต่สิ่งที่น่ากังวล คือ ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้นค่อนข้างมาก ทำให้อัตรากำไรปีหน้ามีแนวโน้มลดลง
บล. หยวนต้า วิเคราะห์ว่า ราคาหุ้นที่ลงมายังไม่เห็นปัจจัยลบที่มีนัยสำคัญ โดยมองว่าการที่ราคาลงมานั้นเกิดจากปัจจัยชั่วคราว 3 ประเด็นหลักคือ
1. ราคากากถั่วเหลือเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารสัตว์ แต่ทางฝ่ายวิจัยทราบว่าข้าวโพดจะเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตอาหาร ดังนั้นเชื่อว่าราคาที่ขึ้นมาจะไม่มีผลกระทบอะไรมาก
2. ราคาหมูในเวียดนามลดลง แต่เป็นการลดลงเล็กน้อยจากระดับที่ขึ้นมา และระดับราคานี้ยังถือว่าสูงอยู่
3. ผลประกอบการของปี 2563 เป็นจุดที่ดีที่สุด เพราะมองว่าราคาหมูอาจจะขยับขึ้นได้อีกไม่มาก แต่ฝ่ายวิเคราะห์เชื่อว่าปีหน้าจะยังได้รับแรงหนุนจาก CPALL และการเข้าซื้อกิจการ TESCO
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์มองว่ากำไรแกร่งสุดและ P/E ต่ำสุดในกลุ่มอาหาร
---------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล