1.วันนี้ 30 ก.ย. เป็นวันทำงานวันสุดท้าย ของพี่ๆวัยเกษียณประจำปี 63
หลังจากที่ทำงานมาอย่างยาวนาน ได้เวลารีเซท จากหน่วยงาน ตำแหน่งหน้าที่ที่เคยมี ในวัย 60 ปี
2. นับจากวันนี้ หลายท่าน ที่ตรากตรำทำงานมาหนัก อาจจะเริ่มเข้าสู่ช่วง
“มีเวลา มีเงิน แต่ไม่ค่อยมีแรง”
3. เอาจริงๆ อายุ 60 สมัยนี้ ... ไม่ถือว่าแก่เลย
ถ้ามีพี่ท่านไหน “มีเวลา มีแรง แต่เงินเก็บยังไม่พอ”
อันนี้คงยังชิลล์ไม่ได้นะครับ ยังต้องหาเงินมาเติมพอร์ต ให้แผนเกษียณถึงเป้าหมายก่อน
4. ถ้าใครมีช่องทาง... “การทำงานต่อไป” ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก
เพราะนอกจากจะสร้าง “รายได้” ให้ต่อเนื่องแล้ว
ยังช่วยให้รู้สึกแอคทีฟ สมองได้คิด วิเคราะห์
ผู้ชายจะดูหนุ่มต่อเนื่อง ผู้หญิงก็จะดูสาวต่อเนื่อง
5. ความจริงอันประเสริฐก็คือ “วันทำงาน ใช้เงินน้อยกว่า วันหยุด”
ดังนั้น การขยายเวลาเกษียณออกไปอีก 3 ปี 5 ปี หรือ 7 ปี (มีบางประเทศ เกษียณที่ 67 ปีก็มีนะ) ก็คือการเพิ่มจำนวนวันทำงาน ... ซึ่งก็คือการลดจำนวนการใช้เงินไปในตัว
จะยิ่งทำให้เงินเก็บเกษียณของเรา ถึงเป้าหมายที่วางแผนไว้ได้มากขึ้น
6. สำหรับพี่ๆที่เงินออมเกษียณดูแล้ว อาจจะยัง “ไม่เพียงพอ” เช่น เคยเงินเดือน 50,000 บาท (ซึ่งใช้หมดทุกเดือน) แล้วต้องการดำรงคุณภาพชีวิตแบบเดิมเลย แปลว่าพี่ต้องมีเงินออม = 50,000x12x20 = 12 ล้านบาท (สมมติอยู่ถึง 80 ปี) แบบไม่ต้องทำงานหารายได้อะไรเลย
กรณีที่พี่มีเงินออมไม่ถึง 12 ล้าน สมมติมี 8 ล้านนะ ... พี่มีทางเลือก 2 ทาง
หนึ่ง...หารายได้เพิ่มอีก 4 ล้าน
สอง...ปรับชีวิต บริหารจัดการให้พอกับเงินที่มีอยู่
ถนัดข้อไหน เอาตามนั้นเลยครับผม
7. ข้อควรระวัง ประการหนึ่ง ที่ผมเห็นมาพอสมควร คือ อย่าทำอะไรเราไม่ถนัดแบบมีโอกาสเสียเงินสูงๆ เช่น อย่าไปเล่นหุ้นปั่น,เล่น TFEX, เล่น DW, เล่น Option หรือสินค้าเก็งกำไรแบบโหดๆ
การนั่งเฝ้าหน้าจอทั้งวัน พร้อมกับต้องตัดสินใจออกแอคชั่นเร็วๆ
เดิมพันด้วยเงินที่จะต้องใช้จ่ายในวัยเกษียณ ไม่สนุกเลยครับ
เล่นได้ก็ดีไป แต่ถ้าเล่นเสีย ใจคอพี่จะห่อเหี่ยว
ผมคิดว่า ดีที่สุดคือการลงทุนเป็นพอร์ต มีสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ กลาง สูง และ มองเงินปันผล
เรียกพอร์ตแบบนี้ว่า Income Focus Portfolio