นานๆจะมีหุ้นค้าปลีกเข้าตลาด เลยต้องลองจับมาทำการบ้านกันสักหน่อยว่าหุ้นตัวนี้มีความน่าสนใจมากน้อยแค่ไหนครับ

KK หรือ บริษัท เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น จำกัด (มหาชน) ทำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้ชื่อ "ร้าน เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์"  ปัจจุบันมี 28 สาขา กระจายในสงขลา พัทลุง และสตูล และมีศูนย์กระจายสินค้า 1 แห่งที่หาดใหญ่
อ่านมาถึงตรงนี้ก็น่าจะคล้ายๆกับร้านค้าปลีกรุ่นพี่อย่าง TNP หรือธนพิริยะ ที่เข้าตลาดมาก่อนหน้านั้นแล้ว

ถ้าดูข้อมูลย้อนหลังของ TNP ตั้งแต่เข้าตลาดมาก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดี ผลประกอบการดีมาโดยตลอด มีสะดุดบ้างช่วง COVID แต่ก็เป็นธรรมดาของการทำธุรกิจย่อมเจออุปสรรคบ้าง
แบบนี้ก็พอจะ "คาดเดา" ได้ว่า KK ก็น่าจะมีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตเช่นเดียวกับ TNP ...

1. ทางข้อมูล Filling แจ้งว่า KK จะมี P/E ประมาณ 20.03 เท่า โดยจะเสนอขายที่ราคา 0.88 บาท/หุ้น (พาร์ 0.5 บาท) เท่ากับว่ากำไรสุทธิของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 0.04 บาทต่อหุ้น
... ถ้าเทียบกับรุ่นพี่อย่าง TNP แล้ว ตอนนี้ P/E ก็อยู่ในระดับใกล้ๆกัน คือประมาณ 20-23 เท่า

2.บริษัทมี Book Value ประมาณ 0.6 บาท/หุ้น

3. การระดมทุนรอบนี้ บริษัทจะได้เงินไปประมา 58.90 ล้านบาท โดยมีจุดประสงค์ในการใช้เงิน คือ
>> ขยายร้านเคแอนด์เค 24 ล้านบาท
>> คืนเงินกู้ 34 ล้านบาท
>> เงินทุนหมุนเวียนในกิจการ 9 แสนบาท

4. ผลประกอบการที่ผ่านมาของบริษัท
ผลประกอบการ 12 เดือน
ปี 2561 บริษัทมีรายได้ 938.97 ล้านบาท กำไรสุทธิ 16.26 ล้านบาท
ปี 2562 บริษัทมีรายได้ 929.30 ล้านบาท กำไรสุทธิ 11.53 ล้านบาท

ผลประกอบการ 6 เดือน
ปี 2562 บริษัทมีรายได้ 452.18 ล้านบาท กำไรสุทธิ 8.19 ล้านบาท
ปี 2563 บริษัทมีรายได้ 481.98 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6.77 ล้านบาท
ดูคร่าวๆแล้ว บริษัทมี Net Margin อยู่ราวๆ 1.23% - 1.80%

ถ้าเทียบกับ TNP แล้ว รายได้ของบริษัทจะอยู่ที่ราวๆ 1.4-1.9 พันล้านบา โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 50-80 ล้านบาท ส่งผลให้ Net Margin ของ TNP จะอยู่ราวๆ 3.6-5.5%
... แต่ทั้งนี้เราก็ยังเปรียบเทียบอะไรมากไม่ได้ เพราะอย่าลืมว่า TNP เขาระดมทุนไปก่อน เข้าตลาดขยายการลงทุนไปก่อนหน้านี้แล้ว ถ้า KK เข้าตลาด อาจจะผลักดัน Net Margin ได้ดีกว่าที่เป็นอยู่

5. สัดส่วนรายได้ของ KK ประกอบไปด้วย ค้าปลีก 82% ค้าส่ง 17% และอื่นๆประมาณ 1%

6. เป้าหมายต่อไปของบริษัท คือ การเน้นขยายสาขาโดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก ไม่เน้นลูกค้าค้าส่งเพราะเชื่อว่าหน้าร้านค้าปลีก เราสามารถนำมาค้าส่งได้ โดยจะมุ่งเน้นเปิดสาขาเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียง เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ พื้นที่ใหม่ๆ ดังนั้น รายได้ค้าส่งอาจจะลดลงในอนาคต

ดูๆแล้วถือเป็นหุ้นค้าปลีกขนาดเล็กที่เน้นในภาคใต้ การระดมทุนมีแผนการลงทุนชัดเจนคือการขยายสาขาในธุรกิจค้าปลีก ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเติบโตในอนาคต ดูๆแล้วก็มีความเป็นไปได้และอดไม่ได้ที่จะเทียบกับรุ่นพี่อย่าง TNP ที่เป็นร้านค้าปลีกในภาคเหนือ โมเดลธุรกิจก็ดูคล้ายๆกัน แตกต่างกันที่ว่า TNP มีผลประกอบการที่ใหญ่กว่า KK ถึง 2 เท่า และ Net Margin ก็อยู่ในระดับสูงกว่า นี้ถือเป็นความท้าทายของ KK ที่นักลงทุนต้องจับตามองกันต่อไปครับ ...

นักลงทุนสามารถอ่านข้อมูล Filling ฉบับเต็มได้ที่นี้