หลายครั้งที่เรามั่นใจมากว่า หุ้นของบริษัทที่เราซื้อ งบดี กำไรโต แต่พอเราซื้อเท่านั้นแหละ หุ้นร่วงไม่เป็นท่า 

 

เราเองก็อดสงสัยและแอบน้อยเนื้อต่ำใจว่า ทำไมหุ้นงบดีขนาดนี้ ราคาถึงได้ลงเอาๆ ราวกับบริษัทจะเจ๊งวันนี้พรุ่งนี้ 

 

เราลองมาดูสาเหตุกันดีกว่าครับว่า น่าจะเป็นเพราะอะไรได้บ้าง

 

1. ราคาขึ้นตั้งนานแล้ว เราเจอกันช้าไป

ก่อนที่เราจะซื้อ หุ้นตัวนี้อาจจะขึ้นมาตั้งหลายเดือนแล้วก็ได้ หุ้นอาจขึ้นมาเป็นหลายเด้งแล้วก็ได้ พองบออกตามที่หลายคนประเมินไว้ คนที่ทุนต่ำเขาก็เลยขายออกมา และก็เป็นเรานั่นเองที่เป็นคนซื้อตอนข่าวดีออก และเวลานี้ก็อาจเป็นไปได้ว่า ราคาอาจใกล้เต็มมูลค่าแล้ว 

 

2. กำไรโตน้อยกว่าที่คาด

เพราะตลาดหุ้นคือ ตลาดแห่งความคาดหวัง ก่อนที่งบจะออก มักจะมีการรีวิวผลประกอบการหุ้นที่น่าสนใจ เรามักจะได้ยินคำว่า การคาดการณ์ของนักวิเคราะห์, IAA Consensus หรือ Bloomberg Consensus ซึ่งผลก็คือ หุ้นบางตัวกำไรโต 50% แต่ถ้าคาดการณ์ว่าจะโต 70% แปลว่า ผิดคาด หุ้นก็ร่วง แต่ถ้าหุ้นกำไรโต 1% จากคาดการณ์ว่าขาดทุน 30% แบบนี้หุ้นอาจจะวิ่งกระจาย เพราะเกินคาดไว้มาก

 

เพราะฉะนั้น อย่างเพิ่งรีบดีใจเวลาเห็นงบการเงินของหุ้นที่เราซื้อกำไรโตดี เพราะอาจจะดีน้อยกว่าที่คาด ส่วนหุ้นที่ขาดทุนเยอะๆ ก็อย่างเพิ่งรีบขาย เพราะอาจจะขาดทุนจนชนซิลลิ่งได้เหมือนกัน

 

3. มีแต่กำไรพิเศษ

ถ้าปกติหุ้นกำไรโต 5-10% แต่อยู่ ๆ รอบนี้โต 100% ให้เอะใจไว้ก่อนว่า อาจจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล หรือมีอะไรพิเศษซ่อนอยู่หรือเปล่า เช่น อาจมีกำไรจากการขายที่ดิน กำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรม กำไรอัตราแลกเปลี่ยน กำไรจากสต๊อกน้ำมัน เป็นต้น เราต้องตัดออกแล้วดูว่า ถ้าคิดเฉพาะกำไรจากการทำธุรกิจจริงๆ เป็นเท่าไร บางทีอาจไม่โตเลยก็ได้ และก็เป็นสาเหตุให้หุ้นร่วงนั่นเอง

 

4. หมดสตอรี่ เขารู้กันทั้งเมือง

ถ้าลองพูดชื่อหุ้นตัวหนึ่งขึ้นมา แล้วปรากฏว่าใครๆ ก็รู้จัก search ชื่อหุ้น ก็เห็นข่าว เห็นบทวิเคราะห์ บทสัมภาษณ์ เต็มไปหมด แต่ละคนเล่าได้เป็นฉากๆ ว่า ทำไมงบถึงดี รายได้โตมาจากอะไร ต้นทุนลงเพราะอะไร ควบคุมค่าใช้จ่ายอะไรได้บ้าง เรียกได้ว่า  เราแทบจะไม่ต้องพูดอะไรต่อเลย ทุกคนรู้สตอรี่เรื่องราวของหุ้นนี้กันหมดแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้โอกาสที่หุ้นจะขึ้นต่อไปได้ไกลๆ ก็จะน้อย เพราะมันชัดซะยิ่งกว่าชัด ไม่มีอะไรให้ลุ้นอีกเลย ยกเว้นแต่ว่า งบจะดีต่อเนื่องหรือดีกว่าปัจจุบันไปได้อีก ถ้าแบบนั้นเดี๋ยวในอนาคต ราคาก็จะสะท้อนได้เอง

 

5. งบดีจริง แต่ตลาดยังไม่เชื่อ

ตลาดหุ้นเป็นเรื่องของคนหมู่มากที่ต้องเห็นพร้อมต้องกัน ถึงจะเข้ามาซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง เกิดความต้องการสูง ราคาก็จะเพิ่มขึ้นไปได้ ถึงแม้ว่าหุ้นที่เราซื้องบจะดีแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าคนส่วนมากยังไม่ปักใจเชื่อว่าจะดีจริง หรือหุ้นไม่เป็นที่รู้จักมากมาย ก็อาจจะยังไม่เข้ามาซื้อ ถึงแม้เราจะเล่าให้ฟังถึงความดีงามแค่ไหนก็ตาม ก็จะยังไม่มีใครสนใจ 

 

แต่เรื่องตลกก็คือ ถ้าในอนาคต ราคาหุ้นตัวนั้นขึ้นแรง เพื่อนเราก็จะรีบมาบอกเราว่า หุ้นตัวนี้ดีนะ กำไรโต สตอรี่ดี ชวนให้เราซื้อ โดยเขาอาจจะลืมไปว่า ก็เมื่อเดือนก่อนเป็นเราเองที่บอกเขาไม่ใช่หรือ

 

โดยสรุปแล้ว ก่อนที่เราจะซื้อหุ้นตัวไหนก็ตาม ไม่ใช่เพียงแต่ว่าดูกำไรสุทธิที่อยู่บรรทัดสุดท้ายเท่านั้น แต่เราต้องไล่เรียงดูสิ่งที่ซ่อนอยู่ในแต่ละบรรทัดด้วยว่า กำไรโตจริงหรือเปล่า เป็นกำไรปกติใช่ไหม ราคายังต่ำกว่ามูลค่าและควาดคาดหวังมากแค่ไหน

 

ที่สำคัญคือ อย่าเพิ่งท้อ ถ้าเราคิดวิเคราะห์อย่างดีแล้ว แต่ราคาหุ้นก็ยังลง

 

ให้คิดว่า หน้าที่ของเราคือ หาหุ้นดี ราคาเหมาะสม ไปเรื่อยๆ แล้วสุดท้ายให้ตลาดเป็นคนตัดสินเอง

 

ให้เราซื้อหุ้นที่วันนี้ยังไม่มีคนสนใจ แต่วันต่อไปพวกเขาจะขาดมันไม่ได้