1. ถ้าคุณ มีความเชื่อ วัฏจักรเศรษฐกิจ Business Cycle แล้วไซร้...ตลาดหุ้นไทย ไม่ได้ถือว่าหมดหวังไปซะทีเดียว
2. เติบโต-> ถึงสุดยอด-> เริ่มถดถอย -> ฝืดเคืองห่อเหี่ยว -> ฟื้นตัว -> เติบโต
วนเวียนไม่จบสิ้น เป็นแบบนี้มานาน และจะเป็นต่อไป
3. ระหว่างทาง แต่ละรอบ ก็มีตัวละครหน้าใหม่เป็นพระเอกของการฟื้นตัว ตลาดหุ้นไม่เคยจับทางได้ง่ายๆ รายละเอียดปลีกย่อยปป.เสมอ
4. สมัยก่อน พระเอกอาจจะเคยเป็น สถาบันการเงิน น้ำมัน ...ต่อมาอาจเป็น สื่อสาร ไฟฟ้า ค้าปลีก ... รอบก่อนเป็น บริการ ท่องเที่ยว ขนส่ง ... ตอนนี้และอนาคต อาจจะเป็น หุ้นเทคฯดิจิทัล และ Healthcare
5. ตลาดหุ้นไทยเราไม่มีหุ้นเทคโนโลยี หรือหุ้นเฮลท์แคร์ ที่เป็นขาขึ้นได้ในวันนี้เลย... ก็คงต้องรอรอบใหม่ที่จะเริ่มเกิด ในช่วงที่เศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวจากภาวะถดถอยและกำลังจะเข้าสู่วัฏจักรการเติบโตครั้งใหม่
6. การจะเกิดข้อ 5 ได้ ต้องอาศัยเจ้ามือตัวจริง คือ "กำไรของบริษัทจดทะเบียน" ที่ต้องเติบโตดี ซึ่งจากฐานที่ต่ำเตี้ยของปีนี้ (หรืออาจจะปีหน้าด้วยในบางกลุ่ม) จะเป็นฐานชั้นดี ให้หุ้นหลายตัวมี Earning Growth ที่สวยงามในวันหน้า
7. สนธิกำลังด้วย "ภาวะดอกเบี้ยต่ำ" ซึ่งจะยิ่งกระตุ้นให้เม็ดเงินในระบบต้อง search for yield คือ นักลงทุนจะวิ่งหาผลตอบแทนมากขึ้นโดยแลกกับการยอมรับความเสี่ยงที่สูงขึ้น
....นั่นจะทำให้เงินนอกตลาดไหลกลับเข้าสู่ตลาดทุนมากขึ้น
8. คำถามใหญ่ของชีวิตคือ "เรากำลังอยู่ที่ช่วงไหนของวัฏจักรเศรษฐกิจ?"
9. ถ้าตอนนี้เราอยู่ในช่วงฝืดเคืองห่อเหี่ยว (ซึ่งผมเชื่อว่าเราน่าจะอยู่เฟสนี้แล้ว) กำไรบมจ.อยู่ในช่วงตกต่ำ... ต้องประเมินต่อว่า จะต้อง(ทน)อยู่กับมันนานแค่ไหน นี่คือ "เกมยาว หรือ เกมสั้น"
10. ถ้าเชื่อว่านี่คือเกมสั้น แปลว่า คุณเชื่อในเศรษฐกิจไทย ว่าจะถูกแก้ไขได้เร็ว ให้ไปต่อได้ ฟื้นไว...กลยุทธ์คือการสะสมหุ้นไทยได้เลย ดัชนีแถวนี้คือย้อนหลังกลับไป 8 ปีละครับ
ถ้าเชื่อว่านี่คือเกมยาว แปลว่า คุณไม่มั่นใจเท่าไหร่ ถ้าแย่ๆแบบต้มยำกุ้งเลย เราตกท้องช้าง 4.5 ปีครับ ...กลยุทธ์คือการสะสมหุ้นไทย แบบรักน้อยๆแต่รักนานๆ ค่อยๆเติม
เพราะที่สุด จากฐานที่ต่ำ มันก็จะกลับมาฟื้นได้อีก
จะใช้เวลานานแค่ไหนเท่านั้นเอง