ตลาดหุ้นไทย "ขาขึ้น" แล้วหรือยัง?

 

นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ตลาดหุ้นในเอเชียโดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดหุ้นไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ต่างตบเท้ารีบาวด์ขึ้นมาเกือบ 5-8 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกับค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เกือบทุกสกุลเงิน

 

ที่มา:  Bloomberg

 

หรือนี่จะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ขาขึ้นรอบใหญ่กำลังจะกลับมา? 

 

มีข้อสังเกตบางอย่าง ที่น่าพิจารณาครับ:

 

• เงินสกุลต่างๆในโซนนี้ต่างพร้อมใจกันแข็งค่าขึ้นไม่เพียงแค่เฉพาะเงินบาทของไทยเท่านั้น แต่รวมถึงเงินริงกิตของมาเลเซียที่ร่วงอย่างหนักก่อนหน้านี้ (ตามบทความที่เขียนไว้เรื่อง "วิกฤตเสือเหลืองมาเลเซีย กับ จุดกำเนิดตำนาน VI มาเลเซีย?")

​

 

 

 

 

• อาจเป็นไปได้ที่กองทุนต่างชาติเชื่อว่า Fed ไม่น่าที่จะขึ้นดอกเบี้ย โดยน่าจะคงดอกเบี้ยจนถึงสิ้นปีนี้ และอาจจะมีมาตรการ QE จากญี่ปุ่นและยุโรปเพิ่มเติมด้วยซ้ำ แทนที่จะเป็น QT เหมือนที่ข่าวออกมาก่อนหน้านี้

 

• ราคาสินค้า commodity เช่นสินค้าการเกษตร  โลหะ และพลังงาน เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ที่ราคาเริ่ม "ย่ำฐาน”  โดยดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยสะทกสะท้าน แม้มีข่าวร้ายต่างๆออกมาอยู่เรื่อยๆ

 

• เนื่องจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่างก็พึ่งพารายได้จากการส่งออกสินค้า commodity เป็นหลัก ดังนั้นการที่ราคาสินค้า commodity เริ่มย่ำฐาน อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดได้ซึมซับข่าวร้ายไปมากแล้ว

 

• และเป็นที่น่าสังเกตว่า แม้ช่วงนี้ประเทศต่างๆในอาเซียนจะยังไม่มีข่าวเศรษฐกิจดีๆ ประกาศออกมา แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ี่กองทุนต่างชาติจะมีข้อมูลเชิงลึกมากกว่านักลงทุนรายย่อย ว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้อาจมีแนวโน้มค่อยๆฟื้นตัว

 

ถ้าเป็นอย่างเช่นนี้จริง ก็มีโอกาสที่ตลาดหุ้นในโซนนี้ (รวมถึงตลาดหุ้นไทย) อาจพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นได้จริง!

 

แต่สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังเป็นอย่างยิ่งคือ นักวิเคราะห์จากหลายค่ายเปิดเผยว่าเงินร้อน (hot money) ที่ไหลเข้ามาในช่วงนี้ เข้ามาพักตัวอยู่ในตลาดตราสารหนี้ระยะสั้นอายุน้อยกว่า 1 ปี นั่นหมายความว่า เงินร้อนก็พร้อมที่จะไหลออกเพื่อทำกำไรระยะสั้นจากตลาดหุ้นและค่าเงินได้ทุกเมื่อ

 

ดังนั้นสิ่งที่ต้องติดตามในระยะนี้ให้ดีคือ:

 

1. ค่าเงินจะยังแข็งค่าอย่างต่อเนื่องหรือไม่ หากค่าเงินบาทและค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาคนี้ เปลี่ยนทิศกลับไปอ่อนค่าอีกครั้ง อาจหมายความว่า เงินที่ไหลเข้าจากต่างชาติในรอบนี้ มาเพื่อทำกำไรในระยะสั้นๆเท่านั้น

2. ราคาสินค้า commodity จะสามารถย่ำฐานในระดับนี้ต่อไป ได้หรือไม่

 

 

คงไม่ต้องถึงขนาดต้องขายบ้านขายรถ เพื่อวัดดวงว่าตลาดหุ้นรอบนี้จะเป็นขาขึ้นแน่ๆหรอกนะครับ... แต่ถ้าจะรอให้ทุกอย่างชัดเจนว่ามันเป็นขาขึ้นแน่ๆๆ .... ก็คือตลาดพีคไปแล้วแหละ 

 

ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการบริหารหน้าตัก อย่าต้องถึงขนาดทุ่มหมดตัวไปทางใดทางหนึ่งเลย

 

ขอให้โชคดีกับการลงทุนครับ