เปิดตำราเจ้ามือหุ้น (ตอนที่ 3): ปล่อยยาพิษหนีโดนเทค เม่าหรือจะรอด?

หัวข้อนี้ฟังดูเหมือนตลกนะครับ แต่รับรองว่าถ้ารายย่อยคนไหนโดนเข้าไป อาจขำไม่ออก

 

แผนกลยุทธ์นี้ไม่ได้มีใช้แต่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ในเมืองนอกถึงกับมีคำศัพท์เฉพาะสำหรับพฤติกรรมเจ้ามือที่ทำแบบนี้เลยดีเทียว ฝรั่งเขาเรียกว่า “poison pill” หรือ “ยาพิษ” นั่นเอง ซึ่งในบางประเทศเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

 

เจ้ามือทำเพื่ออะไร? ทำอย่างไร? ทำไมเม่าถึงซวยไปด้วย? ลองดูตัวอย่างสมมุติครับ

 

• บริษัท ABCD ทำธุรกิจส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ไปยังต่างประเทศ กิจการดีมาก รายได้โตวันโตคืนทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ

​

• แต่เนื่องจากบริษัทนี้ เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มก่อตั้งบริษัทของรุ่นๆพ่อที่เป็นเพื่อนๆกันเมื่อครั้งยังหนุ่ม ทำให้สัดส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่กระจัดกระจายมาก โดยกลุ่มของตระกูลนาย ก. ผู้เป็นแกนหลักในการก่อตั้งบริษัท มีหุ้นอยู่แค่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนที่เหลือกระจายไปยังกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยอีกกลุ่มละประมาณ 6-7 เปอร์เซ็นต์ และเป็นหุ้นมี free float ถือโดยรายย่อยสูงถึง 60%

​

 

• กลุ่มของนาย ข. เห็นว่าธุรกิจนี้ช่างดีแสนดี จึงอยากเข้าครอบงำกิจการแทนกลุ่มนาย ก. จึงวางแผนค่อยๆทยอยซื้อหุ้นในกระดาน ผ่านทางบริษัทนอมินีหลายแห่ง ทั้งที่จดทะเบียนในประเทศไทย และบริษัท offshore ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ

 

• เพื่อหลีกเลี่ยงการต้องทำ Tender Offer  นาย ข. ได้วางแผนอย่างแยบยล โดยไม่มีบริษัทใดเลยของกลุ่มนาย ข. ที่ถือหุ้นเกิน 24.99 เปอร์เซ็นต์ แต่หากนับรวมหุ้นที่ถือทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านนอมินีแล้ว กลุ่มนาย ข. มีหุ้นไปแล้วกว่า 30 เปอร์เซ็นต์

 

• ประกอบกับด้วยความชะล่าใจว่าไม่มีใครมาจ่อคอหอย หลายปีที่ผ่านมา นาย ก. ขายหุ้นเพลิน จนหุ้นในมือจากเดิมที่มีอยู่ 20 เปอร์เซ็นต์ ลดลงเหลือเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น!   แต่ท้ายที่สุด นาย ก. ก็เริ่มเฉลียวใจ และเริ่มโยงใยได้ว่ากลุ่มของนาย ข. นั้น ได้ถือหุ้นเยอะกว่าตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว !

​

 

ด้วยความโกรธและต้องการแย่งชิงบริษัทกลับมา นาย ก. จึงวางแผนที่จะใช้ “ยาพิษ” เพื่อล้มการโดน take over ในครั้งนี้ มาดูกันดีกว่าว่านาย ก. จะพ่น “ยาพิษ” อย่างไร?

 

• นาย ก พ่นยาพิษโดยประกาศ “เพิ่มทุน” จำนวนมโหฬาร เพื่อให้หุ้นที่นาย ข. ซื้อเก็บไว้ถูก dilute ลงไป

 

• ในขณะเดียวกัน นาย ก. ก็ขายหุ้นเพิ่มทุนนั้นแบบเจาะจง (PP) ให้กับนักลงทุนพันธมิตรใหม่รายหนึ่ง  แต่เนื่องจากนาย ก. ไม่ได้มีทางเลือกมากนัก และพันธมิตรรายใหม่นั้นก็รู้ดีว่าอำนาจการต่อรองตกอยู่ในมือของเขา จึงต่อรองกับนาย ก. ให้ยอมขายหุ้น PP ในราคาที่ต่ำกว่าราคาในกระดานมาก

 

• ที่ยิ่งแย่ไปกว่านั้น นาย ก. วางแผนตั้งใจ “ทุบ” รายได้และกำไรของบริษัทตัวเองให้ดูย่ำแย่ พร้อมปล่อยข่าวร้ายมากมาย  ทำให้นักลงทุนรายย่อยกังวลและหวาดกลัว เทขายหุ้นออกมาในราคาถูก เพื่อนาย ก. จะได้ทยอยซื้อเก็บหุ้นกลับเข้าพอร์ตตัวเอง!

​

 

 

จะเห็นได้ว่าเกมส์การต่อสู้ระหว่างคนที่จะเทคและคนที่จะโดนเทค คนที่ได้รับความซวยที่สุดก็คือ "ผู้ถือหุ้นรายย่อย" ที่โดนทั้ง dilute และโดนทุบหุ้นอีกด้วย! 

 

​เข้าตำรา “เมื่อช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกลาญ” 

 

 

 

(ติดตามตอนหน้าของ “เปิดตำราเจ้ามือหุ้น” ยังมีอะไรที่เด็ดกว่านี้อีกเยอะครับ!)