"บ้านคือหนี้สิน ไม่ใช่ทรัพย์สิน ..."
ถ้าถามว่าหนังสือที่ชอบอ่านมากที่สุด หนึ่งในนั้นน่าจะเป็นหนังสือพ่อรวยสอนลูก (Rich Dad Poor Dad) มีตอนหนึ่งกล่าวไว้ว่า ..
" พ่อจนบอกบ้านเป็นการลงทุนและเป็นทรัพย์สินที่ใหญ่ที่สุด พ่อรวยบอกบ้านไม่ใช่การลงทุนและเป็นหนี้สินที่ใหญ่ที่สุด "
นี้ถือเป็นวรรคทองของหนังสือเล่มนี้เลยนะ ....
ประโยคนี้มันมีความหมายมากจริงๆ จำได้ว่าบ้านที่อยุธยาโดนไฟไหม้ เราตัดสินใจมาอยู่กรุงเทพพกเงินติดตัวอยู่ 2 ล้านบาท กับรถเก่าๆอีกคัน มาอาศัยอยู่กับพ่อตาแม่ยาย โดยเราช่วยออกค่าใช้จ่ายภายในบ้านด้วยนิดหน่อย ...
เราเริ่มสร้างตัวใหม่ อดออม ขยันทำงานจนเก็บเงินได้ประมาณ 5 ล้านบาทใน 3 ปีครึ่ง
เราคิดอยู่ในใจเสมอว่าเรายังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ในตอนนั้นก็เลยคิดจะไปซื้อบ้านสำรองเผื่อไว้ โดยมีทางเลือกอยู่2ทาง
ทางเลือกที่ 1
ซื้อบ้าน 5 ล้านบาท คือหมดเลยเงินเก็บของเรา ไม่มีเงินไว้ทำทุนต่อ แค่ผ่อนดาวน์ ได้ 12 เดือน ก็หนักมากแล้ว ทุนเราจะหายไป25%เลย แล้วต้องโอนอีก ผ่อนอีก และแบกหนี้ไปอีก 20 ปี
... ลองคิดดูทุกเดือนเหมือนมีเจ้าหนี้เรามาทวงเงินเราที่บ้านตลอด20ปี มันทุกข์ใจขนาดไหน
กับทางเลือกที่ 2
ซื้อคอนโด 100 ตารางเมตร ราคา3.5ล้าน ดีที่ได้ผ่อนดาวน์ 36 เดือน ..
เราเลือกทางเลือกที่ 2 เพราะเป็นหนี้ให้น้อยที่สุด เลือกที่จะเหลือทุนไว้ทำทุนต่อ
โชคดีมากพอผ่อนดาวน์ได้ 3 ปี เราก็มีเงินเหลือจากกำไร ก็รีบโอนสนไม่อยากให้มีหนี้ หรือมีใครมาทวงเงินทุกๆต้นเดือน
บางคนหาเงินได้ก้อนหนึ่งก็ตัดสินใจซื้อบ้านทันที โดยที่ไม่ได้ตระหนักไว้ว่าเราต้องผ่อนอีกนานเท่าไร เราผ่อนไหวไหม คิดแต่อยากมีบ้านเร็วๆ การเป็นหนี้ไปอีก 20 ปี เท่ากับว่า 20 ปี นี้เราแทบจะกระดิกตัวทำอะไรไม่ได้เลย เพราะถ้าเราเกิดพลาดอะไรไป เช่น โดนให้ออกจากงาน หรือตกงาน ตรงนี้เดือดร้อนแน่
ก็อย่างที่พ่อจนบอก บ้านเป็นการลงทุนและเป็นทรัพย์สินที่ใหญ่ที่สุด
พ่อรวยบอก บ้านไม่ใช่การลงทุนและเป็นหนี้สินที่ใหญ่ที่สุด
เห็นความแตกต่างกันแล้วหรือยังครับ .. !!