ตั้งแต่ 22 มีนาคม
สาขาใหญ่ ปิดไป 8 จาก 10 สาขา
สาขาเล็ก หรือ To Go ปิดหมด 6 สาขา
... เริ่มกลับมาทยอยเปิดต้นเดือนพฤษภาคม และเปิดครบหมดตั้งแต่ 17 พฤษภาคมพูดง่ายๆ ว่า ร้านโดนปิดไปประมาณครึ่งไตรมาส ใครเห็นก็ต้องคิดว่ายอดขายลดลงแน่ๆ เพราะขนาด HMPRO กับ GLOBAL รายได้ยังลดกันตั้ง 16-17% เลย
แต่งบ DOHOME ออกมาผิดคาด เพราะรายได้โต 3% SSSG ยังโตได้ 0.4% สาเหตุที่เติบโตได้ก็เพราะ
1. มีสาขาใหม่ที่ปีก่อนไม่มี คือ สาขาเพชรเกษม และ DOHOME To Go
2. ได้ยอดขายจากการอั้น หรือ pent up demand เข้ามาเยอะหลังจากกลับมาเปิดร้าน
3. ยอดขายจากทีมขายตรง และทางออนไลน์โตเยอะมาก
แต่ไม่ใช่ว่า ยอดขายโต แล้วกำไรจะดีตาม เพราะว่าต้นทุนกลับเพิ่มมากกว่า คือ +5% ทำให้ กำไรขั้นต้น -7%
และ GPM ลดลงจาก 16.5% เหลือ 14.9% สาเหตุก็เป็นเพราะ
--> ปิดหน้าร้าน House Brand ที่เป็นตัวทำกำไร มาร์จิ้นสูงก็ลดลงตาม
--> กลับกันสินค้าส่วนมากที่ขายดี คือ วัสดุก่อสร้าง เช่น ปูน เหล็ก ซึ่งมีมาร์จิ้นต่ำกว่าเยอะ
--> DOHOME ต้องการควบคุมสต็อคไม่ให้มีปัญหา ทำให้จำกัดการสั่งของ ซึ่งก็กระทบกับค่า DC Fee ลดลงตามมอีก
และไม่ใช่แค่นั้น SG&A ก็เพิ่มมา 10% เพราะว่ามีทั้งค่าใช้จ่ายเปิดสาขาใหม่ ค่าพนักงาน ค่าเสื่อมต่างๆ มากดดันอีก ทำให้สุดท้ายกำไรสุทธิ ติดลบไป 24%
== กลับมาที่ประเด็นว่า แนวโน้มครึ่งปีหลังดีไหม ==
หลังจากเปิดร้าน ยอดขายช่วงแรกเป็น Pent Up Demand เยอะมาก แล้วก็เริ่มซาลง แต่ว่า SSSG ของเดือนกรกฎาคมถึงกลางสิงหาคมก็ยังอยู่ที่บวก 7-8% (แผ่วลงจากมิถุนายน แต่ดีกว่าปีก่อน) จริงๆ เดือน 7 ดี แต่เดือน 8 เจอฝนตกหนักเลยฉุดรายได้ลงมา
สัดส่วน House Brand เริ่มกลับมาดีขึ้นเหมือนปีที่แล้ว แปลว่ามาร์จิ้นจะดูดีขึ้น และมีแผนเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง คือ
-- ร้านใหญ่ มีอยู่ 10 สาขา เปิดเพิ่มตอนต้น Q3 ที่สุรินทร์ แล้วเดี๋ยวเดือนกันยายนจะเปิดที่ระยอง ส่วนอีกที่คือ แหลมฉบัง ชลบุรี เลื่อนไป Q1 ปีหน้า
-- ร้าน To Go มีอยู่ 8 วางแผนเปิดอีก 7 สาขา หลักๆ ก็จะไปกับ Tesco Lotus ตลาด ซึ่งน่าจะเข้ากันมากกว่าไปกับ Tesco Hypermarket
โดยสรุป DOHOME กลับมาสู่แนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้น แต่ต้องติดตามกำลังซื้อของผู้บริโภคให้ดี และดูต่อว่าเป็นแค่ช่วงของ Pent Up Demand หรือเปล่า และที่สำคัญ ถึงแม้รายได้อาจจะโต GP อาจจะดีเพราะสัดส่วน House Brand แต่ว่า SG&A จากการเปิดสาขาใหม่เรื่อยๆ หรือแนวโน้มของการจ่ายหุ้นปันผลอีกในอนาคต ก็จะยิ่งเพิ่มฐานทุนให้สูงขึ้นอีก ก็อาจจะกดดันกำไรได้เช่นกัน
** สุดท้ายเพื่อนๆ อย่าลืมประเมินมูลค่าทุกครั้งว่า ราคานี้คุ้มค่ากับการลงทุนมากน้อยแค่ไหนด้วยนะครับ
ป.ล. การลงทุนมีความเสี่ยง วิตามินหุ้นเพียงให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณและความรอบคอบทุกครั้งก่อนจะลงทุน