1. ต้นปีผมเชื่อว่า โรคระบาดโควิด คงจะไม่ทำร้ายเศรษฐกิจไทยได้เท่าต้มยำกุ้ง
แต่มาวันนี้ต้องบอกว่า บางภาคส่วน เริ่มเห็นแนวโน้มไปทางนั้น คือ sector การท่องเที่ยวที่กำลังวิกฤตหนัก
2. ธุรกิจอย่างสนามบิน และสายการบิน ที่ประกาศงบการเงินไตรมาส 2 ออกมาคือขาดทุนทุกตัว แบบเละเทะ แม้บางราย(สายการบิน AAV)จะพยายามลดต้นทุนอย่างหนักกันแล้วก็ตาม ขนาดสนามบิน AOT ยังขาดทุนเลยจร้า
3. ยิ่งรายไหนที่ลดต้นทุนได้น้อย รายได้แทบไม่มี รายจ่ายหนักแน่น คือ งบออกมาขาดทุนหนักมากกก แบบนึกไม่ออกว่าจะรอดจากการล้มละลายได้ยังไง
4. นอกจากธุรกิจการบินแล้ว อีกหนึ่งธุรกิจที่อาการหนักยิ่งคือ "ธุรกิจโรงแรม"
5. ต้องบอกว่าเราอาจจะเคยได้ยินนักท่องเที่ยวมากมายไปพักในจังหวัดใกล้ๆกรุงเทพฯ ขับรถไม่เกิน 3 ชั่วโมง อย่าง พัทยา หัวหิน ระยอง เขาใหญ่...แต่ที่จริง supply ห้องพักของไทยมีมากมายกว่านั้นมาก จังหวัดท่องเที่ยวใหญ่ๆ เชียงใหม่ สมุย ภูเก็ต กระบี่ พังงาเชียงราย ฯลฯ ขาดนทท.ต่างชาตินี่คือเหนื่อยหัวใจจริงๆ
6. อีกทั้งโรงแรมไม่ได้มีเฉพาะโรงแรมใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น โรงแรมเหล่านี้ก็พยายามสู้วิกฤตเต็มที่ ให้ส่วนลด โปรโมชั่นมากมาย ผมเชื่อว่าสายป่านที่ยาวและเครือข่ายที่กว้างกว่า พวกเขาจะรอดแน่นอน
แต่ยังมีกิจการโรงแรมระดับ SME อีกมากมายซึ่งหลังจากมาตรการคลายล็อกดาวน์โรงแรมยังกลับมาเปิดบริการได้แค่ 1 ใน 3 เท่านั้นที่เหลือคือ ไม่มีเงินหมุนเวียนมารันธุรกิจ หรือ เปิดไปไม่คุ้ม
7. ไหนจะผู้ประกอบการการท่องเที่ยว SME กว่าหมื่นรายทั่วประเทศ ที่นับรวมทัวร์ รถเช่า รถบัส รถตู้ โชว์ ร้านอาหาร นวด ฯลฯ มีแรงงานกว่า 4 ล้านคน กลุ่มนี้กำลังมีปัญหาในอาชีพการงานมากขึ้นและมากขึ้น
ลูกน้องก็แพ้...เถ้าแก่ก็แย่
8. ประเทศไทยเรามีรายได้จากการท่องเที่ยวร่วม 3 ล้านล้านบาทต่อปี ซึ่ง 2 ใน 3 เป็นการพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ปัญหาคือนักท่องเที่ยวต่างชาติปีที่แล้ว 40 ล้านคน มาปีนี้เรามีนักท่องเที่ยวไม่ถึง 7 ล้านคน ซึ่งเป็นไปตามมาตรการการควบคุมการระบาดของโรคอันนี้แก้ปัญหาได้ยากจริงๆครับ
9. มีความเชื่อว่าการเดินทางระหว่างประเทศอาจจะติดขัดจนถึงสิ้นปี ซึ่งสิ่งนี้จะกระทบ SME การท่องเที่ยวอีกมากมายมหาศาลจากต้นปีถึงปัจจุบันมีการยื่นขอปิดตัวแล้ว 240 รายมาจากจาก กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ตและสุราษฎร์ธานี
10. นับตั้งแต่โควิด-19 ระบาดอย่างหนักหน่วง ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวนั้นรายได้หดตัวถึง >75%
11. สิ่งที่จะเกิดต่อไปคือ ธุรกิจ sme ที่ไม่มีสายป่านยาวเพียงพอ จะรอให้ตลาดนทท.กลับมาได้เองหลังโรคระบาดก็คงไม่ไหว หลายกิจการจะจากไปก่อน
12. นี่เป็นปัญหาอันดับต้นๆที่ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ต้องเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย ไม่ใช่พวกเขาไม่สู้ แต่วิกฤตรอบนี้มันหนักหนาเกินกว่าจะสู้เองไหว
เช่น
การตั้งกองทุนการท่องเที่ยว
แหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ
หาวิธีกระตุ้น demand จากคนไทย
โดยเฉพาะช่วย smes ครับ