#แนวคิดด้านการลงทุน

“ซื้อถูก ขายแพง” พูดง่ายแต่ทำยาก

โดย Stock Vitamins - วิตามินหุ้น
เผยแพร่:
130 views

ซื้อหุ้น 5 บาท ขาย 10 บาท 

ซื้อหุ้น 20 บาท ขาย 100 บาท

 

ซื้อตอนที่ราคาถูก ขายตอนที่ราคาขึ้นไปแพงๆ แค่นี้ก็กำไรแล้ว ฟังดูเหมือนง่าย แต่เวลาทำจริงไม่ง่ายขนาดนั้น

 

บ่อยครั้งที่เรามักจะซื้อแพง แล้วไปขายถูก ทำให้ขาดทุนอยู่บ่อยไป

 

วันนี้เราจะมาตีความประโยคนี้กันครับว่า เหตุใดถึงขาดทุน หรือว่าเราควรมองอะไรมากกว่าแค่ราคาหรือเปล่า ประเด็นที่น่าสนใจ ได้แก่

 

1. ถูกไม่จริง

หุ้น A ราคาเคยอยู่ที่ 10 บาท ลงมา 7 บาท ลงมาตั้ง 30% รีบซื้อเลยเพราะคิดว่าถูก แต่ต่อมามันลงไปที่ 5 บาท อ้าว ถูกแล้วยังมีถูกอีก รีบขายเลย สุดท้ายมันก็วิ่งกลับมาที่ 10 บาท เราก็งงว่า รู้งี้ไม่ cut ดีกว่า หรือ รู้งี้รอซื้อ 5 บาท แล้วมาขาย 10 บาทดีกว่า

 

2. แพงได้อีก

หุ้น A ราคา 10 บาท ขึ้นมา 12 บาท โห +20% แล้ว ขายดีกว่า เดี๋ยวราคาลง กลัวขาดทุนอีก  พอขายไป ราคาเริ่มย่อ เราก็คิดว่ามาถูกทาง ผ่านไปไม่กี่เดือน เราก็ลืมดูหุ้นตัวนี้ไปแล้ว กลับมาเปิดดูอีกทีขึ้นไป 20 บาทแล้ว เราก็เสียดาย รู้งี้ไม่ขายดีกว่า รู้งี้กลับมาซื้อคืนดีกว่า

 

3. ราคามีความผันผวน

หุ้น A เริ่มต้นที่ 10 บาท ลงไป 5 บาท ขึ้นไป 20 บาท แต่ระหว่างทาง ราคาไม่ได้ขึ้นลงเป็นเส้นตรง และมีระยะเวลาบอกจุดเริ่มต้นกับสิ้นสุดว่าเมื่อไหร่ ในความเป็นจริงคือ จาก 10 มา 7 มา 5 ไป 6 กลับมา 5 ไป 8 ไป 10 ไป 15 ลงมา 13 แล้ววิ่งพรวดไป 20 บาท เรียกได้ว่า ยิ่งเราเจาะดู time frame ย่อยแค่ไหน เราก็จะเห็นความผันผวน การวิ่งขึ้นลงของราคาอยู่ตลอด และเราก็พร้อมที่จะทำการซื้อขายตลอดเวลา

 

สังเกตอะไรมั้ยครับ ปัญหาของเรื่องนี้คือ เรายึดติดกับ ตัวเลข มากเกินไป เรามองแค่ว่า ซื้อตอนเลขน้อยๆ แล้วหวังจะไปขายตอนตัวเลขมากๆ ในระยะเวลาสั้นๆ โดยคิดว่าตัวเลขจะวิ่งขึ้นเป็นเส้นตรง

 

แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ !!

 

วิธีแก้ปัญหาของเรื่องนี้ อยากให้ลองพิจารณาเป็นขั้นตอนแบบนี้ครับ

 

1. เลือกบริษัทให้ถูกต้อง

เริ่มต้นอย่าเพิ่งดูว่าราคาหุ้นเท่าไหร่ ให้ดูก่อนว่า บริษัทน่าสนใจลงทุนมั้ย พื้นฐานเป็นอย่างไร กำไรมากแค่ไหน แนวโน้มการเติบโตดีหรือเปล่า ถ้าไม่ดีให้ปล่อยผ่าน แต่ถ้าดีมีเรื่องราวน่าสนใจ อนาคตน่าจะสดใส ค่อยหยิบเข้ามาพิจารณา เราต้องเริ่มต้นจากการหยิบหินให้ถูกก้อนซะก่อน แล้วราคาค่อยว่ากัน

 

2. ประเมินมูลค่าให้ได้

เลือกบริษัทถูกต้องแล้ว ต้องประเมินราคาให้ได้ว่า บริษัทนี้ควรมีมูลค่าเท่าไหร่ เทียบกับการเติบโตในอนาคต เทียบกับสินทรัพย์ หนี้สิน ค่าใช้จ่าย เงินลงทุนที่มีในปัจจุบัน แล้วตีค่าออกมาเป็นกรอบของตัวเลขแห่งโอกาสนั้น เสร็จแล้วเทียบกับราคาที่เราเห็นอยู่บนกระดานว่าถูกหรือแพงกว่ากี่เปอร์เซ็นต์ เทียบกับเป้าหมายของเราว่าตรงกันมั้ย ถ้าใช่ก็ซื้อได้

 

3. เข้าใจเรื่อง เวลาและความผันผวน

เรารู้แล้วว่าบริษัทดี ราคานี้มี upside สมมติ 50% เราพอใจ แต่เราก็ต้องเข้าใจเรื่องเงื่อนไขของเวลาด้วยว่า มูลค่าที่เราตีออกมานั้นคือ ผลจากการดำเนินงานที่จะสำเร็จในอีก 1 ปี ข้างหน้า ไม่ใช่เวลานี้ และในหุ้นตัวเดียวกันกับที่เราสนใจ ก็จะมีนักลงทุนมากหน้าหลายตา ที่มีความต้องการต่างกันเข้ามาซื้อขาย กลยุทธ์การลงทุนต่างกัน ความพอใจต่างกัน

 

บางคนซื้อเยอะ 3 ช่องออก บางคน กำไร 10% ขาย กลัวมันลง บางคนซื้อเยอะมากหลายล้าน ก็ต้องทยอยขาย เพราะเดี๋ยวสุดท้ายออกไม่ได้  แต่สุดท้ายราคาหุ้นมันอาจจะสามารถขึ้นไปได้ตามเป้าหมายที่เราคำนวณไว้ เพียงแต่ว่าระหว่างทางที่ขึ้นนั้นมันไม่ได้ราบเรียบ มันเหมือนกำลังขับรถอยู่บนถนนที่ขรุขระหน่อย ต้องแวะเติมน้ำมันบ้าง บางทีต้องกลับรถบ้าง เราก็ต้องเข้าใจเรื่องความผันผวนระหว่างทางให้ได้ด้วย

 

โดยสรุป การซื้อถูก ขายแพง ไม่ใช่แค่ดูที่ตัวเลขแล้วเทียบกับความรู้สึกว่าถูกหรือแพง แต่ต้องเลือกตั้งแต่บริษัทที่ถูกต้อง มีการเติบโต เราประเมินมูลค่าให้ได้และเข้าใจเรื่องความผันผวนระหว่างทางก่อนไปถึงเป้าหมาย

 

อย่าคาดหวังว่า เราจะซื้อหุ้นได้ถูกที่สุด และขายได้แพงที่สุด 

 

 

แต่ให้พอใจกับกำไรที่เราได้รับ ตามเป้าหมายที่เราต้องการ และมาจากวิธีการที่ถูกต้อง


ผู้ชนะแข่งขันโครงการ Stock Writer ของ stock2morrow

https://www.facebook.com/pg/stock.vitamins

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง