ผลประกอบการออกมาดีมากๆ สวนทางหลายมุมมองของนักวิเคราะห์ว่างบไตรมาส 2 ของ SCC อาจจะลดลง
ผลปรากฏว่าบริษัทมีกำไร 9,383.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 7,043.16 ล้านบาท จากผลดำเนินงานของธุรกิจหลักที่ดีขึ้น จากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และการจัดการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ
อีกทั้งมีการประกาศจ่ายปันผล 5.50 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 13 สิงหาคม 2563
ทั้งนี้ เรามาดูกันว่าผลประกอบการของ SCC ประจำไตรมาส 2/63 มีอะไรน่าสนใจบ้าง
1. กำไรสุทธิ 9.4 พันล้าน +35%QOQ และ +33% YOY ... ** บริษัทมีกำไรพิเศษ
2. กำไรพิเศษของบริษัท ประกอบไปด้วย
++ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนของเงินกู้ Fajar 482 ล้านบาท
++ ประโยชน์จากภาษีที่อินโดนีเซีย 200 ล้านบาท
-- ค่าใช้จ่ายการด้อยค่าสินทรัพย์ 700 ล้านบาท
-- ขาดทุนจากสินค้าคงคลัง 600 ล้านบาท
3. ถ้าหักกำไรและรายจ่ายพิเศษ บริษัทจะทำได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ภาพรวมถือว่าผลประกอบการออกมาดี
4. ธุรกิจปูนซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้าง ปริมาณความต้องการใช้มากขึ้นเล็กน้อย ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น แต่ผลประกอบการ "ลดลง" เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้อยค่าสินทรัพย์ 699 ล้านบาท
5. ธุรกิจปิโตรเคมี ผลประกอบการดีขึ้น ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น รวมถึงอัตรากำไรสูงขึ้นจาก Spread ปิโตรเคมีที่ดีขึ้นจากต้นทุนเนฟทาลดลงตามราคาน้ำมัน
6. ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ นี้ถือเป็นธุรกิจ "ดาวรุ่ง" และน่าจับตาของ SCC ทีเดียว ผลประกอบการดีขึ้น ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยนของเงินกู้ Fajar 482 ล้านบาท
ภาพรวมถือว่าดูดี
มาดูมุมมองบทวิเคราะห์กันบ้าง ว่ามองอย่างไรครับ ....
บล.หยวนต้า วิเคราะห์ว่ากำไรครึ่งปี 63 คิดเป็น 57% ของทั้งปี มองว่าครึ่งปีหลังมีแนวโน้มชะลอลงเพราะมีการปิดซ่อมบำรุงหลายโรงงาน และจะกลับมาฟื้นตัวได้ในปี 2564 จากการบริโภคในประเทศ โครงการกระตุ้นจากภาครัฐ
สำหรับประเด็นที่น่าสนใจของ SCC คือ การปันผล 5.5 บาท คิดเป็น Yield 1.4% และการ Spin Off บริษัทลูก SCGP เข้าตลาด แนะนำนักลงทุนมองยาวไปจนถึงปี 2564
บล.แอลเอช มีมุมมองว่า กำไรออกมาดีกทุกกลุ่มธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจปิโตรเคมี และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ สิ่งที่คาดหวังต่อมาคือการนำหุ้น SCGP ทำ IPO ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูง และทำให้ต้นทุนโครงสร้างทางการเงินของลดลงได้อีก
บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง วิเคราะห์ว่ากำไรไตรมาส 2/63 ดีขึ้นกว่าที่ตลาดคาด แต่สิ่งที่น่ากังวลจะเป็นครึ่งปีหลังมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากการปิดโรงงานซ่อมบำรุง และกำลังการผลิตใหม่ที่จะเข้ามาในตลาดโลก
ภาพรวมของ SCC ครึ่งปีแรกออกมาได้น่าประทับใจจากกลุ่มธุกิจ ไม่ว่าจะเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น ปริมาณการขายที่สูงขึ้น
------------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย