ลองเอา Oppday ของไตรมาส 1/63 มาฟังดู ก็ไปสะดุดกับธุรกิจของ SHR ที่พึ่งเข้าตลาดมาได้ไม่นาน เป็นหุ้นอีกตัวที่สร้างความผิดหวังให้กับคนจองซื้อ IPO เป็นอย่างมาก แต่ถ้าเราไปดูโครงสร้างบริษัทก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียวเพราะมีกลุ่ม "สิงห์" เป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่

บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าหุ้น SHR ทำอะไร
... บริษัททำธุรกิจโรงแรมทั้งไทยและต่างประเทศ เป็นโรงแรมระดับบน คือ 3-5 ดาวขึ้นไป ปัจจุบันมีทั้งหมด 39 แห่ง ในไทย 4 แห่ง ที่เหลือต่างประเทศตามเกาะแหล่งท่องเที่ยว เช่น มัลดีฟท์ เมอริเชียส ฟิจิ แล้วก็ที่ประเทศอังกฤษแต่นี้ไปถือหุ้นสัดส่วน 50% โดยรวมทั้ง 39 แห่ง มีทั้งบริหารเอง และจ้างเขาบริหาร สัดส่วนรายได้ในไทย 25% ที่เหลือมาจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่

ธุรกิจของ SHR ก็จะมีประมาณนี้ ....
 

กลับมาที่งาน Oppday ประจำไตรมาส 1 ผู้บริหารกล่าวว่าอะไรบ้าง ?
ทางผู้บริหารยอมรับว่าปี 2563 รายได้ลดลงค่อนข้างแน่ชัดแล้ว เพราะเปิดโรงแรมได้แค่ไตรมาส 1/63 และปิดทั้งหมดในไตรมาส 2/63  ... พอมาถึงไตรมาส 3/63 จะเปิดดำเนินงานเพียงบางส่วน และจะเปิดได้ครบเมื่อถึงไตรมาส 4/63

ดังนั้นถ้าเทียบกับปี 2562 จะลดลงอย่างมาก !!

และจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในไตรมาส 4/63 จนถึงปีหน้าก็จะดีขึ้นตามลำดับ

ส่วนกลุ่มโรงแรมที่ฟื้นตัวได้เร็ว ส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมที่เปิดตามเกาะ ได้แก่ประเทศฟิจิ และมอริเชียส เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น ที่จะทยอยเปิดให้บริการ ต่อมาน่าจะเป็นประเทศไทยและตามด้วยอังกฤษ โดยเน้นนักท่องเที่ยวภายในประเทศนั้นๆก่อน


ไตรมาส 1/63 ธุรกิจโรงแรมโครงการ Crossroad (กลุ่มโรงแรมที่มัลดีฟท์) ได้รับผลตอบรับที่ดี รัฐบาลสนับสนุน มีการสร้างสนามบินใหม่ นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งโรงแรมของ SHR มีกิจกรรมมาก ครบครัน และตอบสนองต่อความต้องการนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ปัจจุบันมี 2 เกาะ 2 โรงแรม และกำลังพัฒนาเกาะที่ 3 เพิ่มเติม

ท้ังนี้ในวิกฤตโควิด ก็ถือเป็นโอกาสของกลุ่มบริษัทเหมือนกันในการซื้อโรงแรมเพื่อขยายธุรกิจใหม่ๆ โดยวางงบประมาณไว้ 4,000-6,000 ล้านบาท
โรงแรมที่เราซื้อต้องมีศักยภาพ ราคาเหมาะสม มีแนวโน้มที่ดี ถึงจะเข้าลงทุน
 

โดยภาพรวมแล้วต้องยอมรับว่า SHR เป็นธุรกิจโรงแรมที่โดนกระทบมากแน่นอน ก็เล่นปิดไปถึง 2 ไตรมาสแบบนั้น ถ้าบอกว่าไม่กระทบก็จะดูผิดปกติเกินไป ส่วนจะกลับมาได้ไหมนั้นต้องดูไตรมาส 4 ปีนี้อีกที แต่สำหรับปี 2564 เต็มปี น่าจะดูดีอย่างแน่นอนเพราะกลับมาเปิดได้เต็มทุกโรงแรม

กลับมาดูราคาหุ้นก็ถือว่าลงมาเยอะมาก เพราะตอนเข้ามาใหม่ๆทำ IPO เสนอขายที่ราคา 5.20 บาท ตอนนี้เหลือ 2 บาท ใครจองหุ้นไปก็บาดเจ็บกันไปตามๆกัน แต่ด้วยราคานี้ P/BV อยู่ที่ 0.4 เท่า ถือว่าต่ำอยู่เหมือนกันถ้าว่ากันตามตำรา

อาจจะเป็นโอกาสที่น่าสนใจก็ได้ ต้องลองกลับไปทำการบ้านกันต่อครับ