ใกล้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 แล้ว นักลงทุนจะได้รู้สักทีว่าผลประกอบการของแต่ละบริษัทจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร บทวิเคราะห์ก็เริ่มออกมาให้ได้อ่านกันครับ
มาดูหุ้นตัวแรกอย่าง DTAC กันก่อน ...
บล.เคจีไอ วิเคราะห์ว่า ผลประกอบการของ DTAC ใน 2Q63 จะยังถูกกดดันทั้งรายได้จากการให้บริการ และยอดขายเครื่อง โดยมีสาเหตุมาจาก
1. คาดว่าผู้ใช้บริการจะลดลงเหลือ 19.2 ล้านเลขหมาย
2. ยอด ARPU จะลดลง
3. รายได้จากการให้บริการโรมมิ่งระหว่างประเทศลดลง
อย่างไรก็ตามผลประกอบการไตรมาส 2 นี้จะถือเป็นจุดต่ำสุด และจะฟื้นตัวได้ในไตรมาส 3 ปี 2563
บล.แอลเอช มองว่า กำไรที่กำลังจะประกาศได้รับผลกระทบเต็มๆจาก COVID-19 ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีมาตรการในการควบคุมรายจ่ายเข้มงวด แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะผลักดันกำไรได้
ทั้งนี้ผลประกอบการไตรมาส 3 จะกลับมาฟื้นตัวได้จากการคลายล๊อคดาวน์ ส่วนไตรมาส 4 ต้นทุนอาจเพิ่มไม่มากเพราะการรับมอบคลื่อน 700 Mhz จะยืดออกไปเป็นปีหน้า มองว่าราคาหุ้น ณ ปัจจุบันค่อนข้างเต็มมูลค่าแล้ว
บล.หยวนต้า ประเมินว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 จะออกมาอ่อนแอ ยาวไปถึงครึ่งปีหลังก็จะยังอ่อนแอต่อเนื่อง ทั้งนี้ตลาดมือถือกำลังเข้าสู่ยุค 5G ในครึ่งปีหลัง แต่ DTAC จะเสียเปรียบในเรื่องนี้มากโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า High End สาเหตุมาจากคลื่นสัญญาณของ DTAC มีคลื่นให้บริการที่จำกัด ดังนั้นการพยายามรักษาฐานลูกค้าเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย
มองว่า DTAC เติบโตอย่างจำกัด ถึงแม้ธุรกิจจะเป็น Defensive ก็ตาม ...
โดยภาพรวมแล้วบทวิเคราะห์มองไปในทิศทางเดียวกันว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาไม่ดี และจะฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลัง ยกเว้น บล.หยวนต้า ที่มองว่าอาจจะยังอ่อนแอไปถึงครึ่งปีหลัง และการมีคลื่นที่จำกัด ทำให้ DTAC อาจจะสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดไป
ถือเป็นความท้าทายของ DTAC ว่าจะมีกลยุทธ์อะไรต่อไป
ใครที่สนใจต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดครับ ...
=========================
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคจีไอ
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์แอลเอช
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า