#แนวคิดด้านการลงทุน

3 สิ่งต้องรู้ ก่อนจะลงทุนในหุ้นหลังวิกฤตโรคระบาด

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
157 views

ในยุคปัจจุบันนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่เข้าถึงอินเตอร์เน็ต และเทรดผ่านระบบออนไลน์กันหมดแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถซื้อขายหุ้นได้ง่ายๆ แต่ด้วย "ความง่าย" นี้เองทำให้เราขาดความระมัดระวัง มือไว ใจเร็ว บางทีก็ผิดพลาดไปบ้าง คัตลอสแล้วเด้ง หรือขายหมูไปซื้ออะไรก็ไม่รู้ที่มันไม่วิ่ง กลายเป็นเสียรอบซะอย่างนั้น

แต่พอหลังเกิดวิกฤต COVID นี้ยิ่งชัดเจนมากขึ้น เป็นการคัดกรองว่าใครคือผู้อยู่รอดตัวจริงและสามารถคว้าโอกาสในวิกฤตไว้ได้ ซึ่งวิกฤตโรคระบาดนี้เองจะเป็น "ตัวเร่ง" ให้เกิด New Normal ทางการลงทุนใหม่ๆ นักลงทุนคนไหนยิ่งศึกษามากขึ้น โอกาสก็จะมากตาม


นี้เป็น 3 สิ่งต้องรู้ ก่อนจะลงทุนในหุ้นหลังวิกฤต COVID เพื่อไม่ให้ตัวเองเสียเปรียบ มีอะไรบ้างไปดูกัน


1. การลงทุนที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด คือ "Growth Stock" หรือหุ้นเติบโต
เอาจริงๆความเชื่อนี้ เคยได้รับการยอมรับว่าถูกต้องตอนที่หุ้นเป็นขาขึ้น เล่นหุ้นขาขึ้นใครๆก็ได้กำไร เล่นกัน P/E สูง ความคาดหวังสูง พอเกิดวิกฤต หุ้นเหล่านี้เลยโดนเทขายอย่างหนักราคาร่วงเกินครึ่ง
... ถามว่ามันจะเติบโตต่อได้อีกไหม มันก็เป็นไปได้เพียงแต่อาจจะสะดุดบ้าง 2-3 ปี เพื่อสะสมกำลังสร้างการเติบโตรอบใหม่

พอหุ้นเติบโตเหล่านี้ ราคาร่วงแรงสร้างความกลัว ใครๆก็เทขาย แต่นักลงทุนบางกลุ่มมองเห็นโอกาสเลยเข้าไปซื้อตอนมันถูกๆ ถือไว้ 2 ปี มันกลับมาเติบโตได้
... เส้นทางแบบนี้เหมือนตำนานของใครหลายๆคน คนส่วนใหญ่มองว่า ถ้าฉันได้โอกาสแบบนี้บ้างจะร่ำรวยเหมือนเซียนหลายๆคน พอเจอกับตัวเอง เรากลับวิ่งหนี

ทั้งนี้ โดยภาพรวมแล้วการลงทุนที่ดีที่สุด คือ หาหุ้นเติบโตที่กำลังเจอวิกฤตระยะสั้น นั้นคือโอกาสที่จะสร้างความมั่งคั่งได้ ตลาดอาจจะแย่บ้างในบางครั้ง แต่ถ้ากลับมาได้ หุ้นเติบโตจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง


2. ไม่จำกัดตัวเองเฉพาะหุ้นไทยอย่างเดียว
ในยุค Digital แบบนี้ เราไม่ควรจำกัดตัวเองลงทุนในหุ้นไทย เราสามารถไปซื้อหุ้นต่างประเทศได้ไม่ยากและมีตัวเลือกทางการลงทุนอีกมาก

จุดอ่อนอย่างหนึ่งของหุ้นไทย คือเป็นหุ้นลักษณะ "เศรษฐกิจรูปแบบเก่า" หุ้นโรงงานอุตสาหกรรม การผลิตที่อัตรากำไรต่ำ หุ้นพลังงาน ค้าปลีก กลุ่มธนาคารที่เติบโตได้ไม่มาก ถึงแม้จะมีธุรกิจท่องเที่ยวและโรงพยาบาลที่พอจะเป็น Mega Trend ได้ แต่ก็มีคู่แข่งจำนวนมากและการเติบโตก็เป็นไปอย่างจำกัด
ในขณะที่หุ้นต่างประเทศเป็นหุ้นเทคโนโลยี นวัตกรรม เจ้าของแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่จะมา "ดิสรัป" ธุรกิจเก่าๆออกไป ซึ่งตลาดหุ้นต่างประเทศ เราสามารถซื้อขายตลาดหุ้นฮ่องกง ตลาดหุ้นอเมริกาหรือประเทศที่เติบโตเร็วอย่างเวียดนาม ก็สามารถหาซื้อเป็นเจ้าของได้

อย่างไรก็ตาม การลงทุนต่างประเทศก็ดูมีความซับซ้อนและปัจจัยที่ยากแก่การควบคุม เช่น ภาษา วัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคย  ค่าเงิน และขนาดของเงินในกระเป๋าผู้ลงทุนที่ต้องมีมากระดับหนึ่ง
... บางคนฟังแล้วอาจจะท้อใจ เพราะเรามีเงินน้อยจะซื้อได้เหรอ
แต่ตรงนี้มีเคล็ดลับ เราสามารถควบคุมความเสี่ยงเรื่องเหล่านี้ได้ เป็นอย่างไรต้องอ่านตอนท้าย


3. ธุรกิจที่จะลงทุนต้องเป็น Mega Trend
ข้อนี้สำคัญมาก ... เพราะหุ้นที่จะเติบโตได้มากๆนั้น นอกจากธุรกิจจะไปได้แล้ว ยังต้องเป็น Mega Trend ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อีกด้วย

ในปัจจุบัน พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก เช่น
- Aging Society สังคมผู้สูงอายุ - โรงพยาบาล ท่องเที่ยว การแพทย์ บริการ

- Urbanization ความเป็นเมือง - การบริโภค ห้าง ร้านอาหาร แฟชั่น เครื่องประดับ สุขภาพรวมถึงสาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐาน

- Digital Lifestyle ชีวิตยุคดิจิตอล - แพลตฟอร์มออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ สตีมมิ่งหนัง-เพลง ผู้ให้บริการสื่อสาร

- She-Conomy ผู้หญิงมีอำนาจการซื้อ - ผลิตภัณฑ์ของผู้หญิง ความสวยความงาม ของตกแต่งบ้าน

- Growing Sustainability พลังงานสะอาด

สิ่งเหล่านี้ ถ้ามองจากหุ้นไทยแล้วถือว่ามีน้อย แต่ในตลาดต่างประเทศมีจำนวนมาก การที่เราไปลงทุนต่างประเทศโดยตรงอาจจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาษา จำนวนเงิน การโอนเงิน ค่าธรรมเนียมที่สูงพอสมควร และค่าเงินบาทที่ผันผวนอยู่ตลอดเวลา

ในปัจจุบัน เราสามารถลงทุนในต่างประเทศได้สะดวกขึ้น นั้นคือการลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในกองทุน(อีกที)ที่ลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งเราสามารถติดต่อผ่านบริษัทจัดการกองทุนรวมได้เลย มีแทบทุกตลาดตั้งแต่ตลาดหุ้นอเมริกา ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง อินเดีย และหลายกองก็มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงทางด้านค่าเงินอีกด้วย

กองทุนรวมถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ที่เราจะไปลงทุนต่างประเทศครับ ...

------------------------------------------------------------------------

จะเป็นมือใหม่ สายวีไอ หรือ เน้นเทคนิค ก็ร่วมงานนี้ได้
Marathon Live "เล่นหุ้นเป็น ใน 1 วัน"
สอนโดยนักลงทุนตัวจริงในตลาดหุ้น
วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายนนี้
ตั้งแต่ 12.00 - 21.00 น.
เพียงซื้อ Package 499 บาท บน 2read เท่านั้น

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง