เมื่อไม่นานมานี้มีบริษัทหนึ่งได้ประกาศจ่ายเงินปันผลที่ "หนักมาก" และประกาศซื้อหุ้นคืนในช่วงเวลาเดียวกัน ถ้าเรากลับไปดูผลประกอบการจะเห็นได้ว่าไม่เติบโต ค่อนไปในทางลงด้วยซ้ำ สอดคล้องกับราคาหุ้นที่ไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง
แต่บริษัทสามารถจ่ายปันผล พร้อมกับการซื้อหุ้นคืน บริษัททำได้อย่างไร และมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง
... มาไขความลับกันครับ
การที่บริษัทสามารถจ่ายปันผลและนำเงินจำนวนหนึ่งมาซื้อหุ้นคืนได้ บริษัทนำเงินมาจากไหน ...
คำตอบ คือ กำไรสะสม ...
ในส่วนของงบดุล จะประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือ ทรัพย์สิน หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้น (บางคนเรียกว่า "ส่วนทุน")
ซึ่งกำไรสะสม จะอยู่ในส่วนของผู้ถือหุ้น ...
เมื่อบริษัทจ่ายปันผล จึงนำเงินสะสมนี้มาปันผลออกไป
ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้น มีขนาดเล็กลง เมื่อส่วนของผู้ถือหุ้นเล็กลง ทำให้ Book Value หรือมูลค่าทางบัญชีลดลงตามไปด้วย .. นี้เป็นข้อเสียข้อแรก
ข้อเสียข้อที่สองที่จะตามมา คือ ความสามารถในการก่อหนี้ "ลดลง" โดยผู้ปล่อยกู้จะดูอัตราส่วน D/E Ratio เป็นหลัก เมื่อส่วนผู้ถือหุ้นลดลง แต่หนี้สินเท่าเดิม ส่งผลให้อัตราส่วน D/E เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทก่อหนี้ได้น้อยลง
ดังนั้น เราไม่ควรคิดว่าเงินปันผล "ก้อนโต" ที่บริษัทจ่ายออกมานั้นเป็นเงินฟรี และข่าวดีมากๆจนต้องไล่ราคาหุ้นเพราะเห็นว่า ด้วยปันผลเยอะขนาดนี้ เมื่อเทียบกับราคาทำให้ Dividend Yield สูงเป็นเลขสองหลัก แต่เราต้องไม่ลืมว่าการปันผลขนาดนั้นไม่ได้มีความยั่งยืน ผ่านไปปีหน้าหรือสองปีข้างหน้า บริษัทก็ไม่สามารถจ่ายปันผลได้หนักขนาดนี้อีก
กำไรสะสมอยู่ในหมวดหมู่ของ "ส่วนของผุ้ถือหุ้น" เมื่อบริษัทจ่ายปันผลออกมา ส่วนตรงนี้จะลดลง
แล้วข้อดี ละ ?
ข้อดีอย่างน้อยที่สุด คนที่เคยถือหุ้นมาก่อนหน้านี้ก็ได้รับเงินพิเศษบ้าง แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันก็จะ Dilute จากราคาหุ้นอีกอยู่ดี
สิ่งที่นักลงทุนต้องต้ังคำถาม คือ แล้วอนาคตของบริษัทจะยังดีอยู่หรือไม่ แล้วเราควรถือหุ้นตัวนี้อยุ่อีกหรือเปล่า
... ต้องตอบคำถามนี้ให้ได้ครับ