กลุ่มโรงแรมและท่องเที่ยวเริ่มกลับมาบวกสดใสอีกครั้งหลังจากที่เจอกับวิกฤต COVID ทำให้ทั้งกลุ่มเกิดอาการ "เป๋" อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมที่ปรับตัวลงมาค่อนข้างรุนแรง
หุ้น CENTEL น่าจะเป็นกลุ่มโรงแรมที่บวกกลับมาได้ดีที่สุด โดยโบรคเกอร์ให้ความเห็นว่า งบดุลของบริษัทค่อนข้างแข่งแกร่ง และหนี้สินต่ำ จึงทำให้เชื่อว่าบริษัทสามารถฝ่าวิกฤตนี้ไปได้ อีกทั้งยังมีประเด็นบวกในเรื่องของภาครัฐฯเตรียมปลดล็อกการท่องเที่ยวภายในประเทศ และคาดจะมีการออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งหลังปีนี้ หลังล่าสุดมีประเด็นข่าว รัฐบาลอาจแจกคูปองส่วนลดค่าที่พัก
บล.เคจีไอ วิเคราะห์ภาพของกลุ่มโรงแรมไว้ว่า ระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยลดลง 100% YoY เหลือศูนย์คนในเดือนเมษายน 2563 เนื่องจากมีการประกาศใช้ พรก. ฉุกเฉิน และมีการประกาศ Curfew ในเดือนเมษายน 2563 พบว่านักท่องเที่ยวหายไปหมดในทุกทำเลที่ตั้ง สำหรับตัวเลขสะสมในรอบ 4M63 พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงถึง 52% เหลือเพียง 6.7 ล้านคน
บทวิเคราะห์คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 2563 จะอยู่ที่ 13 ล้านคน ซึ่งจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวในช่วง Q3/63
โดยเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 รัฐบาลได้อนุมัติให้คลายมาตรการ lockdown เฟสที่ 3 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป โดยประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรมได้แก่
1. อนุญาตให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยได้เป็นรายกรณี
2. ขยายเวลาปิดห้างสรรพสินค้าออกไปเป็น 21.00 น. (จากเดิม 20.00 น.) และ
3. อนุญาตให้ใช้ห้อง ballroom และจัดกิจกรรม MICE ได้ เรามองว่าการผ่านคลายรอบนี้จะทำให้ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารฟื้นตัวได้เล็กน้อย เนื่องจากการขยายเวลาเปิดห้างสรรพสินค้าจะช่วยหนุน SSS ในขณะที่การกลับมาเปิดใช้ห้องบอลรูมก็จะช่วยหนุนกิจกรรมของธุรกิจโรงแรม
ในภาพรวมของกลุ่มโรงแรมแล้วให้ความเห็นว่า "เป็นกลาง" เนื่องจากมีความไม่แน่นอค่อนข้างมาก แต่ถ้าให้เลือก จะเลือก CENTEL เป็น Top Pick เนื่องจากมีความเสี่ยงทางการเงินต่ำที่สุดในกลุ่ม ในขณะที่ธุรกิจก็กระจายตัวดีและรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจในประเทศไทย
ล่าสุด CENTEL ยังมีปัจจัยบวกในเรื่องของการลงทุนธุรกิจโรงแรมในประเทศญี่ปุ่น Centara Grand Osaka โดยมูลค่าโครงการสูงถึง 5 พันล้านเยน