#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

สรุปหุ้นเครื่องดื่ม … Q1’20

โดย Stock Vitamins - วิตามินหุ้น
เผยแพร่:
123 views

หุ้นกลุ่มนี้หลายตัวราคาขึ้นมาร้อนแรงตั้งแต่ประกาศงบเริ่มตั้งแต่ CBG ตามมาด้วย ICHI, TACC หรือวันสองวันนี้ก็ MALEE ที่ขึ้นแรง เรามาดูกันดีกว่าครับว่า แต่ละบริษัทงบเป็นอย่างไรแบบสั้นๆ


== CBG ==

- คืองบเทพมากตั้งแต่บรรทัดแรกถึงบรรทัดสุดท้าย รายได้ก็โตดี ต้นทุนก็ลดได้ SG&A ก็ลดลง คืนเงินกู้อีก ทำให้กำไรเติบโตระดับ +90%

- รายได้โตมาจาก CLMV เป็นหลัก +36% แต่ที่ไทยไม่โต (ตลาดในประเทศสู้ OSPไม่ไหว แต่ต่างประเทศดีกว่ามาก) บางส่วนก็น่าจะมาจากการตุนสินค้า แต่เชื่อว่าบางส่วนคือขายดีจริงเพราะ รายได้ CLMV ดีตั้งแต่ Q4 แล้ว และพอไปดูเพื่อนๆ อย่าง ICHI, OISHI, OSP ก็ไม่ได้ขายดีที่ CLMV มากเท่า CBG

- ด้านต้นทุนแทบไม่ต้องห่วง เพราะเดี๋ยวมีเพิ่มกำลังการผลิตโรงงานของตัวเองอีก ยิ่งขายเพิ่มต้นทุนต่อหน่วยจะยิ่งลดลง และค่าใช้จ่ายที่อังกฤษพวกสปอนเซอร์ทั้งหลายก็จะลดลงอีก

- โจทย์ตอนนี้คงเป็นว่า รายได้จะเพิ่มได้มากแค่ไหนโดยเฉพาะตลาด CLMV โดยเฉพาะกัมพูชากับพม่า แต่ว่าราคาหุ้นก็ขึ้นไปสูงแล้วเหมือนกัน เพราะฉะนั้นต้องประเมินควบคู่กันครับว่าคุ้มค่าแค่ไหน


== OSP ==

- ไม่เทพเท่า CBG แต่ก็ดูมีความน่าสนใจเพราะว่า ตลาดไทยทำได้แข็งแกร่ง ตลาด CLMV ก็ทำได้ดีแต่ว่า กัมพูชา อาจไม่เก่งเท่า CBG ในส่วนของต้นทุนขาย ต้องบอกว่าด้วยกลยุทธ์ Fit Fast Firm ทำให้ GPM ปรับได้ดีขึ้น คือ ทำทั้งในแง่สูตรสินค้า การปรับ packaging การทำ SKU Optimization ประสิทธิภาพการผลิตโรงงาน

- แต่สิ่งที่คงเป็นปัญหาของ OSP มาตลอดดูเหมือนว่าจะเป็น SG&A ที่ค่อนข้างบวมอยู่ตลอด ต้องติดตามดูว่าจะปรับให้ดลงได้อย่างไร หรืออีกนัยหนึ่งก็อาจจะมองได้ว่า SG&A ที่ลงทุนทำหลายอย่างในวันนี้จะมาช่วยให้รายได้ในอนาคตเติบโตได้มากกว่า

OSP น่าติดตามว่า จะโตต่างประเทศ ไปเป็น next CBG ได้หรือไม่


== ICHI ==

- รายได้ไม่โต -3% ถูกฉุดโดยตลาต่างประเทศที่ -18% ถึงแม้ว่าตลาดในประเทศ +5% และอินโดกำไรแล้ว 8 ล้านบาท แต่ด้วยการที่ควบคุมต้นทุนได้ดี และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่ทำโปรโมชั่นแบบหว่านแห แถมยังคืนเงินกู้อีก ทำให้กำไรโต 39%

- โจทย์ต่อไปของ ICHI คือ

1. ควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้ได้แบบนี้ต่อไป
2. หาทางกลับมาโตที่ตลาด CLMV ให้ได้แต่ก็ไม่ง่าย เพราะว่าโตลดลงติดต่อกันมาหลายไตรมาสแล้ว คู่แข่งหลักคือ OISHI ก็ทำผลงานได้ไม่ค่อยดี แปลว่าตลาดชาเขียวในกัมพูชาอาจจะไม่ง่าย
3. ตลาดเมืองไทยโตได้ และเห็นออกสินค้าใหม่มารัวๆ เดี๋ยวเดือนหน้าจะมี น้ำดื่ม Ph 8.5 ต้องดูว่าจะเวิร์คมั้ย
4. ส่วนตลาดอินโดน่าจะจับทางได้ด้วย ชาไทยนม ชาเขียวนม แต่คู่แข่งที่เป็นเจ้าตลาดก็พร้อมทุ่มเงินมากันตลาดเช่นกัน


== OISHI ==

- รายได้ลด ทำได้ไม่ค่อยดีในตลาดกัมพูชาและลาว แต่ก็ยังพอลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ แต่ที่เข้ามาช่วยหลักๆ คือ ค่าสินไหมทดแทนจากที่เกิดไฟไหม้ขึ้นในไลน์ผลิตเมื่อปี 2560 เป็นจำนวน 293 ล้านบาท


== MALEE ==

- เหมือนจะดีตรงตลาดต่างประเทศเห็นบอกขายนมกับน้ำผลไม้เพิ่มขึ้น แต่ตลาดในประเทศยังไม่ดีเท่าไหร คือ ภาพรวมตลาดหดตัวมาหลายปีแล้ว ขนาด TIPCO ยังเหนื่อยเลย แต่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายอื่นๆ MALEE ทำได้ดีทีเดียว

- น่าติดตามว่ารอบนี้จะกลับมา turn around ได้มั้ย คำถามคือ สินค้าที่ขายดีคืออะไร แล้วจะดีต่อเนื่องแค่ไหน ถ้าเปรียบเทียบกับรอบที่แล้ว น้ำมะพร้าว คือตัวดันให้ราคาไปถึงหลักร้อย แต่รอบนี้ต้องตอบให้ได้ชัดเช่นกันว่าคืออะไร


== TACC ==

จริงๆ กำไรบวกไม่เยอะมาก มีกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาด้วย ส่วนที่โตน่าจะมาจาก ALL Café และขายสินค้ามาร์จิ้นสูงได้ แต่คิดว่าโถกดเครื่องดื่มร้อนเย็นอาจจะไม่ดีมากนัก ทำให้รายได้รวมหดตัว แต่ไปลดตรงต้นทุนกับ SG&A ได้ดี


== HTC ==

- ดูเหมือนว่ายอดขายจะได้รับผลกระทบพอสมควรจาก COVID-19 ยอดขายลดลงไป 6% น่าจะมาจากทั้งร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ที่ยอดขายลดลง แต่ก็ยังบริหารต้นทุนได้ดี แต่รอบนี้มี SG&A ที่บวมขึ้นมาหลายรายการ ทั้งค่าคน ค่าธรรมเนียมที่ Coca-Cola เก็บเพิ่มขึ้น ค่าย้ายเครื่องจักรบางส่วนของกระป๋องและขวด PET (แต่ก็ต้องบอกว่า SG&A ของ HTC ค่อนข้างเพิ่มเยอะกว่ายอดขายมาตลอด)


- โดยสรุป หุ้นเครื่องดื่มมีหลายตัวที่น่าสนใจ แต่ราคาไปดาวอังคารแล้ว หลายตัวที่ดูควบคุมต้นทุนได้ดี ต้องมาตามต่อว่าจะทำรายได้ให้โตได้ดีแค่ไหน บางตัวลุ้น turn around บางตัวต้องลด SG&A ให้อยู่ ชอบตัวไหนไปแกะงบกันต่อได้เลยครับ แต่ที่สำคัญ อย่าลืมประเมินราคาด้วย เพราะหุ้นดี สตอรี่เด่น แต่ราคาแพงไป เราก็ดอยได้


ผู้ชนะแข่งขันโครงการ Stock Writer ของ stock2morrow

https://www.facebook.com/pg/stock.vitamins

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง