หุ้น STA หรือบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ปรับตัวขึ้นมาได้อย่างโดดเด่น เนื่องด้วยผลประกอบการที่สดใส และการเติบโตของธุรกิจถุงมือยางทำให้คาดกันว่าไตรมาส 2 ที่จะถึงนี้ผลประกอบการจะเติบโตดีกว่าไตรมาส 1
เรามาดูสรุปของแต่ละบทวิเคราะห์กันว่ามีมุมองกันอย่างไร ...
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองว่าหุ้น บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/63 สดใสต่อจากธุรกิจถุงมือยางที่ดีขึ้น Q-Q เพราะรับรู้กำลังการผลิตใหม่เต็มไตรมาสและราคาขายปรับขึ้นตามความต้องการใช้ที่มากขึ้นและมีคำสั่งซื้อยาวถึงกลางปีหน้าแล้ว ส่วนธุรกิจยางธรรมชาติมีแนวโน้มชะลอเล็กน้อย ปริมาณขายลดลงตามความต้องการยางล้อที่ลดลง ราคาขายลดแต่ยังสูงกว่าราคายางโลก
แนวโน้มช่วงครึ่งปีหลัง (H2/63) ชะลอลงเพราะถือบมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT) ลดลงจาก 81% เหลือ 56% ภายหลังการ IPO ของ STGT พร้อมปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น 30% เป็น 2.4 พันล้านบาท
บล. เอเชียเวลท์ วิเคราะห์ว่า ไตรมาส 2 จะยังเติบโตต่อเนื่องนำโดยธุรกิจถุงมือยางที่เติบโตได้อย่างโดดเด่น ถึงแม้ว่าราคาขายของยางแผ่น ยางแท่ง ยางก้อนจะลดลง แต่ปริมาณขายปรับสูงขึ้น และ STA ก็สามารถขายได้ราคาดีกว่าราคาตลาดยาง
บทวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกต่อธุรกิจยางธรรมชาติและถุงมือยางที่เติบโตโดดเด่น ทั้งปริมาณขายและราคาขายที่สูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูง รวมถึงกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้เงินบาทอ่อนค่าเป็นปัจจัยหนุน STA เนื่องจากมีสัดส่วนการส่งออกคิดเป็น 86% ขณะที่ STGT คาดเข้า IPO ในช่วง 3Q63 ตามกำหนดการเดิม
บล.เคทีบี วิเคราะห์ว่า กำไรของ STA สดใสโดยมีสาเหตุมาจาก 3 ปัจจัย คือ
1. รายได้จากยางธรรมชาติขยายตัว +17.6% YoY, 17.5% QoQ จากทั้งปริมาณและราคาขายที่ปรับตัวดีเพราะคู่แข่งหลายรายหยุดการดำเนินงานจากโควิด-19 และการส่งออกที่ดีจากค่าเงินบาทอ่อน
2. ธุรกิจถุงมือยาง เติบโต 26.1 % YoY, 20.2% QoQ จากความต้องการเพื่อรับมือกับ โควิด-19
3. Gross margin ปรับขึ้นเป็น 16.4% จาก 8.8% ในไตรมาส 4/62 และ 4.2% ในไตรมาส 1/62 จากการบริหารต้นทุนวัตถุดิบที่ดีและจากธุรกิจถุงมือยางที่มีมาร์จิ้นสูง
โดยภาพรวมจุดเด่งอยู่ที่ธุรกิจถุงมือยาง การใช้ถุงมือยางยังเติบโตได้ปีละ 10 - 12% โดย STA ระบุว่า ในสถานการณ์ปกติ ความต้องการใช้ถุงมือยางในทางการแพทย์ทั่วโลกจะเติบโตอยู่ที่ปีละ 10 - 12% โดยที่บริษัทอยู่ระหว่างการขยายกำลังผลิตต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโต คาดมีกำลังการผลิตเป็น 50,000 ล้านชิ้นต่อปีภายในปี 68 / 65,000 ล้านชิ้นต่อปีภายในปี 71 / 100,000 ล้านชิ้นต่อปีภายในปี 75
อีกปัจจัยที่น่าสนใจ คือ การนำบริษัทลูก Sri Trang Gloves Thailand (STGT) เข้าจดทะเบียนใน SET ภายในปีนี้ โดยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 444,780,000 หุ้น ซึ่งผลบวกจากประเด็นนี้จะทำให้มูลค่าหุ้นของ STA เพิ่มขึ้น ผ่านราคาหุ้นของ STGT หลังไอพีโอนั่นเอง
ใครที่ถือหุ้น STA อยู่ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปครับ .....