การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ บางคนเปรียบเปรยไว้ ว่าเหมือนออกไปรบ … ตัวเรานักลงทุนก็คือ “แม่ทัพ” , เงินสดของเราคือ “ทรัพยากรการรบหรือยุทธปัจจัย”, สภาวะตลาด คือ “สภาวะการณ์แห่งสมรภูมิสงคราม” และ สิ่งที่แม่ทัพต้องเผชิญอยู่ตรงหน้าทุกวัน คือ “หุ้น”
ดังนั้น คำว่า "รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง" จากตำราพิชัยสงครามซุนวู ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการลงทุนได้เช่นกัน เพราะการลงทุนในหุ้น ให้ประสบความสำเร็จ ได้ผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำนั้น การรู้เขารู้เราสำคัญมาก
- รู้เรา คือ รู้จักตัวเอง ต้องทราบว่าตัวเราเองนั้น ใจร้อนหรือใจเย็น รอคอยเป็นหรือรอคอยไม่ได้ ชอบลงทุนในแนวทางการลงทุนแบบไหน เพราะไม่มีแนวการลงทุนไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน มีแต่วิธีที่ถูกจริต และเข้ากับจังหวะชีวิตของแต่ละคน จึงต้องค้นหาแนวที่เหมาะสมกับบุคลิกและความถนัดส่วนตัวของเราให้ได้
- รู้เขา คือ รู้จักหุ้น หุ้นนั้นเป็นหุ้นประเภทไหน โตเร็ว โตช้า วัฏจักรหรือยังขาดทุน ... ให้อะไร? เงินปันผล หรือส่วนต่างราคา หรือ ความหวือหวาวูบวาบ? หุ้นแบบไหนเหมาะกับสภาวการณ์ตลาดอย่างไร? ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ซึ่งมีหุ้นกว่า 700 ตัว ก็ย่อมมีหุ้นที่หลากหลาย ตอบสนองความสนใจในการลงทุนทุกรูปแบบที่ใช่ในสไตล์ที่คุณชอบ
การแบ่งหุ้นเป็นประเภทต่างๆ จะช่วยให้นักลงทุนทำความรู้จักสไตล์ของหุ้นได้ดียิ่งขึ้น เพื่อเลือกลงทุนให้โดนใจ นี่คือการ “รู้เขา” ... นักลงทุนในตลาดหุ้นมีการแบ่งกลุ่มหุ้น โดยใช้เกณฑ์การแบ่งมากมายหลายแบบ
- บ้างก็แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ หุ้นปั่น กับ หุ้นพื้นฐาน
- บ้างก็แบ่งเป็น 3 ประเภทคือ หุ้นเหมาะเล่นสั้น หุ้นเหมาะเล่นระยะกลาง หุ้นเหมาะเล่นระยะยาว
- บ้างก็แบ่งเป็น 4 ประเภทคือ หุ้นเก็งกำไร หุ้นบลูชิพ หุ้นปันผล กับ หุ้นคุณค่า
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์และนักลงทุนจำนวนมาก(ซึ่งรวมตัวผมเองด้วย)ชอบที่จะอ้างอิงการแบ่งกลุ่มหุ้นเป็น 6 ประเภทของปีเตอร์ ลินช์ มากที่สุด เพราะมีความชัดเจน เข้าใจง่าย และคลาสสิกเหนือกาลเวลา ปัจจุบันก็ยังคงใช้อ้างอิงกันอย่างแพร่หลาย มีดังนี้
การแบ่งประเภทหุ้น นักลงทุนต้องเข้าใจว่า บางกรณีแม้จะเป็นหุ้นตัวเดียวกัน การจัดเข้ากลุ่มของนักลงทุนแต่ละคนก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน แล้วแต่ความเข้าใจและมุมมองอนาคตที่มีต่อหุ้นตัวนั้น
อย่างหุ้นรถไฟฟ้า (BTS หรือ BEM) บางคนอาจมองเป็น หุ้นเติบโต(Growth Stock) เพราะรายได้มีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกหลายปีจากการขยายเส้นทางเพิ่มโครงข่ายรถไฟฟ้า แต่บางคนก็อาจจะมองเป็นหุ้นแข็งแกร่ง (Stalwarts) เพราะมีความ defensive ผลการดำเนินงานในช่วงปกติคาดหวังและประเมินได้ได้ ทั้งนี้อยู่ที่มุมมองนักลงทุน
การที่เราเข้าใจหุ้นที่กำลังจะลงทุนว่า จัดเป็นหุ้นในกลุ่มใด จะทำให้เรามีกลยุทธ์การลงทุนที่ถูกต้อง เหมาะกับตัวเรามากยิ่งขึ้น นำไปสู่ผลตอบแทนระยะยาวตามที่ต้องการ และสำหรับนักลงทุนระยะยาว หุ้นประเภทที่ 2 (หุ้นแข็งแกร่ง) และประเภทที่ 3 (หุ้นเติบโต) คือหุ้นที่เหมาะกับการลงทุนระยะยาว ผ่านความผันผวนได้ แถมยังคาดหวังได้ทั้งเงินปันผลและกำไรจากราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
สำหรับ วันเสาร์ที่ 16 พ.ค. นี้ พี่นิ้วโป้งจะมาร่วมงาน Marathon Live หัวข้อ "ส่องหุ้น อึด ถึก ทน" หากใครเป็นสายวีไอ หรือเริ่มสนใจดูงบการเงิน ห้ามพลาดเลยครับ เพราะงานนี้พี่นิ้วโป้งจะมาเผยไอเดียการดูหุ้นอึด หุ้นทน ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังผันผวนอยู่พอดี
นอกเหนือจากนี้ ยังมีกูรูอีก 20 คน ที่จะมาถ่ายทอดความรู้ในการลงทุนในสไตล์ที่แตกต่างกันอีกด้วย ดูกันยาวๆ ตั้งแต่ 11.00 - 24.00 น. ไปเลย งานนี้ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งครับ สามารถติดตามรายละเอียดของงานได้ที่ https://bit.ly/35SCrka
แล้วมาเจอกันนะครับ