#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

มองหุ้น STGT น้องใหม่ IPO ที่น่าสนใจ

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
99 views

ถือเป็นหุ้น IPO ตัวที่สองของปี 2563 สำหรับหุ้น STGT หรือ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตถุงมืองยางอันดับต้นๆของโลก ซึ่ง Spin-off มาจากหุ้น STA .. ว่ากันว่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้หุ้น STA วิ่งในช่วงตลาดลงหนักด้วย
... ทั้งนี้ STGT มีสาระสำคัญอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันครับ


1. บริษัททำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์ ซึ่งถือเป็นอันดับต้นๆของโลก ซึ่งในฐานะลูกของ STA แล้วถือได้รับแรงสนับสนุนจากแม่พอสมควร เพราะแม่อย่าง STA มีธุรกิจครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ
- ต้นน้ำ : มีสวนยางพาราประมาณ 45,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 19 จังหวัดในประเทศไทย
- กลางน้ำ : มีโรงงานผลิตยางธรรมชาติ 36 โรง ทั้งยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน และน้ำยางข้น รวมถึงบริษัทเทรดดิ้งในต่างประเทศ
- ปลายน้ำ : มีโรงงานถุงมือยาง ซึ่งก็คือ STGT ที่กำลังจะ Spin off ออกมานี้เอง


2. STGT มี 3 โรงงานที่หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี และตรัง กำลังการผลิต 27,153 ล้านชิ้นต่อปี ตอนนี้ใช้กำลังการผลิตเกือบ 90% ก็เรียกได้ว่าเกือบเต็ม ยิ่งช่วงวิกฤตไวรัส COVID ด้วยแล้ว น่าจะได้รับแรงสนับสนุนอยู่พอสมควร


3. ความต้องการซื้อของถุงมือยางทั่วโลกมีประมาณ 300,000 ล้านชิ้น โต 12% จากปีที่แล้ว คิดว่าปีนี้น่าจะโตมากกว่าที่บริษัทคาดคิดไว้เพราะโรคระบาด หลักๆแล้วโตจากอุตสาหกรรมการแพทย์ โดยมาเลเซียครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด ตามมาด้วย ไทย จีน เวียดนาม


4. หลัง IPO แล้วบริษัทมีแผนการเพิ่มกำลังการผลิต คือ
- 30,000 ล้านชิ้น ภายในปี 2563
- 50,000 ล้านชิ้น ภายในปี 2568
- 100,000 ล้านชิ้น ภายในปี 2575 ... ซึ่งจะทำได้ไหม ผู้ลงทุนต้องจับตาอย่างใกล้ชิด


5. โครงสร้างรายได้ของ STGT แบ่งออกเป็น
- ขายในประเทศ 14% และส่งไปต่างประเทศ 86%
- ผลิตขายในแบรนด์ของตัวเอง "ศรีตรังโกลฟส์" 14% และผลิตแบบ OEM 86%


 

6. ผลประกอบการที่ผ่านมาเติบโต แต่ก็ผันผวนระดับหนึ่ง ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะทิศทางราคายางพาราด้วย มีทั้งค่าเงิน ทั้งค่าเงินบาท ค่าเงินมาเลเซีย
- ปี 2560 รายได้ 11,765 ล้านบาท กำไรสุทธิ 214 ล้านบาท
- ปี 2561 รายได้ 11,079 ล้านบาท กำไรสุทธิ 981 ล้านบาท
- ปี 2562 รายได้ 12,224 ล้านบาท กำไรสุทธิ 614 ล้านบาท


7. ปีนี้น่าจะได้รับอานิสงค์ความต้องการของถุงมือในระดับสูง โรงงานในมาเลเซียมีการ lock down ยิ่งทำให้ Supply หาย แต่ Demand พุ่ง ทำให้ STGT ได้รับอานิสงค์เต็มๆ


8. ธุรกิจปลายน้ำอย่างถุงมือ น่าจะเป็นสินค้าที่โตได้เรื่อยๆ แต่จะให้โตก้าวกระโดดแบบหวือหวาก็ไม่น่าจะใช่ ถ้าเราพิจารณาดูดีๆ ก็แตกย่อยกันในหลายวงการ เช่น วงการทำความสะอาด เกษตรกร แม่บ้าน ถุงมือยางมีหลากหลายแบรนด์เต็มตลาด ราคาก็แตกต่างกัน หาง่าย แต่ถ้าพูดถึงในวงการแพทย์อันนี้ต้องได้มาตรฐาน ต้องมีความสะอาดเป็นหลัก และลูกค้าของ STGT ก็อยู่ในวงการแพทย์ โรงพยาบาลด้วย ตรงนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบที่เป็นจุดเด่นน่าสนใจ


9. แต่สิ่งที่ต้องติดตาม คือ ราคายาง ค่าเงิน และคู่แข่งอย่างมาเลเซียที่อาจจะเพิ่มกำลังการผลิตได้ในอนาคต


อันนี้ก็เป็นภาพกว้างๆของหุ้น IPO อย่าง STGT ครับ มองภาพรวมแล้วถือว่าน่าสนใจระดับหนึ่งเลยทีเดียว


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง