ผลประกอบการ Q1 กำลังจะออกมาแล้ว โดยภาพรวมคิดว่าน่าจะออกมา "ไม่ดี" สักเท่าไรนัก โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบน่าจะเป็นเรื่องของการ "ท่องเที่ยว" รองลงมาคือชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ รวมถึงสื่อและสิ่งพิมพ์ น่าจะออกมาผิดหวังมากๆ แต่ในตลาดหุ้นอะไร อะไรก็เกิดขึ้นได้ และราคาหุ้นของกลุ่มเหล่านี้ก็รับรู้ข่าวร้ายไปมาก
ทั้งนี้ เราจะลงทุนและปรับตัวอย่างไร สรุปมุมมองจากหลักทรัพย์หยวนต้าครับ ...
1. กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมาก คือ ท่องเที่ยว โรงแรม ชิ้นส่วนยานยนต์ สื่อและสิ่งพิมพ์ กลุ่มที่ถูกผลกระทบจำกัด คือ อาหาร และโรงไฟฟ้า
2. กลุ่มแบงค์ ได้รับผลกระทบปานกลาง
กลุ่ม ICT ได้รับผลกระทบน้อย
3. กลุ่มแบงค์ ไตรมาส 1 ออกมาไม่ดีไปจนถึงไตรมาส 2 สินเชื่อต่ำกว่าเป้าหมาย แต่กลุ่มแบงค์น่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายไปมาก รวมถึงมาตรการ Soft Loan ของแบงค์ชาติ จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของกลุ่มแบงค์ได้
4. กลุ่มไฟแนนซ์-ลีซซิ่ง แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
- กลุ่มจำนำทะเบียน เช่น SAWAD และ MTC กำไรจะออกมาดี
- สินเชื่อเพื่อการบริโภค เช่น KTC AEONTS ได้รับผลกระทบมาก
- ธุรกิจประมูลหนี้ เช่่น BAM ระยะยาวจะดี แต่ระยะสั้นยังมีปัญหา
5. กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม
- ธุรกิจเลี้ยงสัตว์ สัตว์บก อาหารสำเร็จรูป ได้รับผลกระทบจำกัด ราคาเนื้อสูง ต้นทุนการเลี้ยงลดลง แต่ธุรกิจ Food Service ออกมาไม่ดี
- เครื่องดื่ม ได้รับประโยชน์จากฤดูร้อน
6. กลุ่มค้าปลีก ออกมาไม่ดี ด้วยภาวะ COVID เศรษฐกิจชะลอ นักท่องเที่ยวไม่เข้า มีโอกาสปรับลงได้อีกในไตรมาส 2 ต้องรอดูอีกที
7. กลุ่มพลังงาน ไตรมาส 1 อ่อนแอกว่าคาด ธุรกิจโรงกลั่นพลิกเป็นขาดทุน แต่ไตรมาส 2 มีโอกาสฟื้นตัวจากราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวขึ้นบ้าง
8. กลุ่มปิโตรเคมี อ่อนแอในไตรมาส 1 และฟื้นตัวในไตรมาส 2 แต่ทั้งปียังมีผลขาดทุน ผลประกอบการไม่สดใส แต่ราคาของหุ้นกลุ่มนี้ลงมาค่อนข้างลึก รับรู้ข่าวร้ายไปมากแล้ว
9. กลุ่มไฟฟ้ําและสําธํารณูปโภค ไตรมาส 1 จะออกมาดี ตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น แต่ไตรมาส 2 ผลประกอบการอาจจะทรงตัวเนื่องจากหลายบริษัทมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาในเรื่องของ COVID มองเป็นหุ้น Defensive ที่กำไรมั่นคง
10 กลุ่มวัสดุก่อสร้ําง ไตรมาส 1 ไม่สดใส จะกลับมาฟื้นตัวคือไตรมาส 2 นำโดย Spread ปิโตรเคมีฟื้นตัว แต่ภาพรวมทั้งปียังไม่ดีนัก
11. กลุ่มรับเหมําก่อสร้าง ภาพรวมทั้งปีไม่สดใส
12. กลุ่มอสังหาฯ ไตรมาส 1 อาจจะมี Positive surprise เพราะผู้ประกอบการหลายรายมี Backlog พร้อมโอนอยู่แล้ว และจะกลับมาแย่ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็น Low season ของกลุ่ม
13. กลุ่ม ICT ปี 2563 รายได้หดตัวลงเล็กน้อย ด้วยธุรกิจเป็น Defensive ปันผลมั่นคง และไม่มีความกังวลเรื่องประมูลคลื่นไปอีกหลายปี
14. กลุ่มท่องเที่ยว ออกมาแย่มากด้วยหลายปัจจัย และจะแย่อีกครั้งในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นช่วง Low Season ของการท่องเที่ยวอีกด้วย
15. กลุ่มโรงพยาบาล มีแนวโน้มอ่อนตัวลง โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ลูกค้าต่างชาติ และกลุ่มประกันสังคม โดยกลุ่มลูกค้าต่างชาติจะชะลอตัวลงมากกว่ากลุ่มลูกค้าที่เป็นประกันสังคม เช่น BCH VIBHA แต่ด้วยราคาหุ้นที่ลงมามากถือว่าสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว
โดยภาพรวมก็จะมีเท่านี้ครับ ใครมีหุ้นกลุ่มไหนก็ต้องปรับกลยุทธ์กันดูครับ
============
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://portal.settrade.com/brokerpage/IPO/Research/upload/2000000385486/Special%20Report_1Q20_Earning%20Trend_130420_3.pdf