ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจสุดฝืด บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายรายกำไรลดลง แต่ "แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์" สวนตลาดทำอัตรากำไรได้สูงสุดถึง 23%! ในช่วงครึ่งปีแรก 2558 คุณ "อนันต์ อัศวโภคิน" พา LH มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?
กลยุทธ์การทำธุรกิจในยุคเศรษฐกิจสุดฝืด
- การปรับตัวสำคัญที่สุด โดยเฉพาะการควบคุมรายจ่าย ซึ่งผลกำไรมาตัดกันตรงนี้ได้เลย
- ค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับการบริหาร เช่น ค่าเอกสารที่มีไว้กันคนโกง ก็หาทางลดค่าใช้จ่าย โดยการทำระบบออนไลน์และหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคาร
- ตัดแผนกที่ไม่จำเป็นออก โดยสำหรับ LH ได้ยุบแผนกบุคคลและให้หัวหน้างานเป็นผู้คัดเลือกพนักงานใหม่เอง
- ยุบฝ่ายก่อสร้าง เพราะมีเอาต์ซอร์ซคุณภาพดีอยู่มาก จึงไม่จำเป็นต้องบริหารเอง จะได้มีเวลาไปดูแลงานส่วนอื่น
- ทำระบบบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย เพื่อลดการใช้เงินทุนหมุนเวียน ลดความยุ่งยากในการก่อสร้าง ใส่ใจการสร้างบ้านมากขึ้น และช่วยเปลี่ยนโฟกัสไปที่การวางแผนสำรวจลูกค้าและคู่แข่ง
- การบริการหลังการขายที่ดี มีผลดีคือช่วยประหยัดงบโฆษณา เพราะลูกค้าจะบอกปากต่อปากเอง
- ควรตั้งเงินสำรองซ่อมบ้านไว้เลย เพราะหากให้ลูกน้องตั้งราคามาเอง จะไม่รู้ว่าปัญหาเกิดจากลูกค้า คนตรวจงาน หรือ ผู้รับเหมา และยังช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น โดยไม่กระทบกำไรขาดทุน
- ควรเก็บเงินดาวน์ 15-20% และทำ pre-approve ก่อนรับจอง จึงจะเหมาะสม
- คุณอนันต์ยังให้ความเห็นอีกว่า เชื่อว่ารัฐจะลดภาษีให้กลุ่ม SMEs แน่นอน โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องเป็นบัญชีที่ยื่นกับกระทรวงพาณิชย์บัญชีเดียวเท่านั้น
จากกลยุทธ์ดังกล่าว เห็นผลชัดเจนว่ากำไรของ LH ยังแข็งแกร่งและมีภูมิต้านทานต่อภาวะเศรษฐกิจซบเซาแบบนี้ได้ คงต้องติดตามกันต่อว่าผลประกอบการ ในไตรมาสต่อไปของบริษัท จะยังคงแกร่งแบบนี้หรือไม่
นักลงทุนสายพื้นฐาน ต้องอย่าลืมว่าความสามารถของผู้บริหาร เป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการวิเคราะห์หุ้นแต่ละตัว เวลาวิเคราะห์บริษัทใดก็อย่ามองแต่ตัวเลขผลประกอบการหรืออัตราส่วนทางการเงินเพียงอย่างเดียว ห้ามมองข้ามการวิเคราะห์เชิงคุณภาพโดยเด็ดขาดครับ
(ข้อมูลจาก: ประชาชาติธุรกิจ, งบการเงิน, รายงานประจำปีบริษัท Land and House)