หุ้นโรงไฟฟ้าขนาด 440 MW รายได้หมื่นล้านบาท รายได้เติบโต 39% กำไรเติบโต 25% NPM 42%

สภาพคล่องดี 2.9 เท่า หนี้น้อย D/E 0.40 บาท
ROE 17.6 เท่า ROA 14 เท่า
P/E 6 เท่า ปันผล 12% (ที่ราคา 3.30 บาท และปันผล 0.40 บาท)

ถ้าดูแค่ตัวเลข หลายคนคงคิดในใจ จะรออะไร เคาะขวาเลยสิ ถูกและดีขนาดนี้

แต่ก็คงมีอีกหลายคนที่แอบสงสัย ถ้ามันดูดีขนาดนี้ ทำไมราคาถึงได้ลงมาจากจุดสูงสุดแถวๆ 7 บาท หายไปกว่าครึ่งมาอยู่ตรงนี้ได้ ราคาเคยลงไปต่ำสุดที่ 2.76 บาท ด้วยซ้ำ

คำตอบของเรื่องนี้ผมว่าอยู่ที่ความชัดเจน ซึ่งมีด้วยกัน 2 เรื่องหลัก

#เรื่องของการเติบโตในอนาคต

- กำลังการผลิต 440 MW ขายให้กับ TPIPL บริษัทแม่ของตัวเอง 260 MW ราคาเม็กละ 3 บาท
- ที่เหลือ 180 MW (สัญญา PPA 163 MW) ขายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือ EGAT ราคาเม็กละ 3 บาทเช่นกัน แต่ว่าได้ค่า Adder เป็นส่วนเพิ่มอีก 3.50 บาท
- เราก็จะเห็นว่า EGAT คือ ลูกค้ารายใหญ่ และปัญหามันอยู่ตรงที่ค่า Adder กำลังจะหมด 73 MW ในปี 2022 และ 90 MW ในปี 2025 ซึ่งก็ใกล้เข้ามาแล้ว
- ความกังวลใจของนักลงทุนคือ เรายังไม่เห็นความชัดเจนของโครงการใหม่ที่จะมาทันเวลาก่อนที่ Adder จะหมดอายุ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีแผนการอะไรเลยนะ เพราะว่าสิ่งที่ TPIPP วางแผนคือ

- แผน PDP 2018 จะมีโครงการขยะชุมชน 400 MW TPIPP ก็จะเข้าร่วมประมูล เช่น โรงไฟฟ้าที่โคราชกับสงขลา รวมกัน 20 MW
- มีโครงการจะซื้อโรงไฟฟ้าขยะ 100 MW ที่ยังไม่ได้ COD
- เจรจาจะขายไฟเพิ่มให้ EGAT 40 MW ของโรงไฟฟ้าปัจจุบันที่เป็น ถ่านหิน+RDF
- ซื้อที่ดิน 16,000 ไร่ ไว้ที่สงขลา เตรียมรองรับโครงการ Southern Seaboard ซึ่งมีทั้งนิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือน้ำลึก และโรงไฟฟ้า ซึ่งรอความชัดเจนจากภาครัฐอยู่

ดูแผนการแล้วน่าสนใจ แต่มันไม่มีซักโครงการที่จะสามารถประกาศได้ชัดเจนว่า ได้แล้ว จะจ่ายไฟ มีรายได้ เมื่อปีนั้นปีนี้ โดยเฉพาะ Southern Seaboard ถ้าเกิดนี่น่าสนใจมาก แต่ไม่แน่ใจว่าเมื่อไหร่

================

#เรื่องของเงินปันผล

- เป็นปัญหาคาใจที่เกิดขึ้นปีที่แล้ว เพราะว่าก่อนหน้านั้นในปี 2018 จ่ายเงินปันผลไตรมาสละ 0.10 บาท มาตลอด
- แต่พอมาปี 2019 หลังจากจ่ายไป 2 ไตรมาส ก็เหมือนจะมีท่าทีว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงการจ่ายปันผล ทำให้นักลงทุนที่ซื้อกินปันผล อาจเกิดอาการลังเล ไม่แน่ใจว่า ตกลงจะเอาไงแน่ ทำให้เกิดแรงเทขายออกมาช่วงหนึ่ง

- แต่สุดท้ายก็ประกาศจ่ายเพิ่ม 0.20 บาท รวมแล้วก็เท่ากับ 0.40 บาท เท่าเดิม
- คำถามต่อมาคือปี 2020 จะจ่ายเท่าไหร่ คำตอบที่ได้คือ ผู้บริหารเห็นผลกระทบเรื่องนี้แล้วจากปีก่อนหน้า และนโยบายคือจ่ายไม่น้อยกว่า 50% ซึ่งคำตอบนี้ก็กำกวมพอสมควร เพราะว่า EPS ปีที่แล้ว 0.55 บาท แปลว่าจ่ายได้ตั้งแต่ 0.275 บาท ขึ้นไป ก็ไม่ได้การันตีว่าจะไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว

=================

#กำไรไตรมาสหนึ่งชะลอ

- Q1’20 กำไรน่าจะชะลอตัวลงจาก Q4 (แต่น่าจะมากกว่า Q1’19) เพราะว่า การจ่ายไฟสะดุดไป 3 รอบๆ ละ 3 วัน น่าจะมาจากสายส่ง ไม่ได้เป็นที่ TPIPP แต่ก็จะทำให้รายได้ลดลง
- ช่วงนี้ความต้องการใช้ปูนลดลง การขายไฟไป TPIPL ก็จะลดลงตาม
- รวมไปถึงแผนการติดตั้ง Boiler ที่จะมาเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตจะล่าช้าออกไป เพราะสั่งเครื่องจักรมาจากจีน มาเจอเรื่อง COVID-19 เข้าไป

โดยสรุป TPIPP จัดว่าเป็นหุ้นพื้นฐานดี ราคาถ้าดูตามนี้ก็ต้องบอกว่าไม่แพง แต่ต้องตอบคำถามให้ได้ชัดเจนว่า กำไรจะมาทันต้นปี 2022 ที่ Adder หมดหรือเปล่า แล้วปันผลขออย่าได้ลด ขอแค่นี้ โอเคมั้ยครับ