หุ้นโรงแรม เป็นหุ้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤต COVID-19 เพราะการเดินทางลดลงอย่างมาก หลายประเทศปิดเมือง ทำให้รายได้และกำไรมีแนวโน้มลดลงมาก หุ้นหลายตัวในกลุ่มนี้ราคาเลยร่วงลงมาแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ได้แก่

- MINT 15.40 บาท P/E 7 เท่า ถ้าตัดกำไรพิเศษออกน่าจะ 10 ต้นๆ (ราคา 52W High 42.75 บาท)
- CENTEL 14.20 บาท P/E 11 เท่า (ราคา 52W High 46 บาท)
- ERW 2.26 บาท P/E 13 เท่า (ราคา 52W High 7.35 บาท)

- DTC 7 บาท P/E 19 เท่า (ราคา 52W High 11.50 บาท)
- SHR 1.56 บาท P/E หาค่าไม่ได้ เพราะมีขาดทุน เพิ่งเข้าตลาดปลายปีที่แล้ว IPO 5.20 บาท
- VRANDA 4.96 บาท P/E 19 เท่า เข้าตลาดกลางปีที่แล้ว IPO 10 บาท

เคยได้ยินหลายคนบอกว่า ถ้า MINT ลงมาราคานี้นะจะซื้อ ถ้า CENTEL ลงมาถึงเท่านั้นจะทุ่มหมดตัว แต่พอราคามาจริง ต่ำกว่าที่อยากได้ด้วย เรากลับเริ่มลังเล เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไป เริ่มไม่มั่นใจว่า COVID-19 จะอยู่กับเราไปอีกนานแค่ไหน และจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มโรงแรมขนาดไหน

ตกลงมันได้เวลาซื้อหุ้นหรือยัง ?

=====================

อันที่จริง ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ตรงนี้เรียกว่าถูกได้หรือยัง แต่ผมมีมุมมองตามข้อเท็จจริงแบบนี้ เอาไว้ประกอบการตัดสินใจแบบนี้ครับ

#MINT

- รายได้หลักตอนนี้มาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการที่ไปซื้อ NH Hotel เข้ามา ถ้าตัดรายได้ตรงนี้ออกไป จะโตไม่เยอะ (หนี้ก็เยอะพอสมควร)

- การกระจายการลงทุน ถ้าในภาวะปกติถือว่าดี แต่พอมาเกิดวิกฤตโรคระบาดซึ่งกระจายทั่วไปหมด โดยเฉพาะยุโรปซึ่งตอนนี้เริ่มหนัก ก็เลยกลายเป็นผลเสียมากกว่า แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าโรคสงบก็อาจจะกลับมาดีได้

- ร้านอาหาร SSSG ยังเป็นลบ แต่การเปิดสาขาใหม่ก็เข้ามาช่วยเพิ่มยอดได้ และการรวมเหลือแค่ 1112 สั่งได้ทุกแบรนด์ก็ช่วยได้พอสมควร

#CENTEL

- รายได้หลักมาจากร้านอาหารมากกว่าโรงแรม ประมาณ 60% ได้ คล้ายๆ กับ MINT คือ SSSG ติดลบ แต่ขยายสาขายเลยทำให้รายได้รวมโตได้ เหมือนว่าจะโดน App Delivery มาแย่งยอดขายไปเยอะ

- โรงแรม ลดลงหมดทั้งอัตราการเข้าพัก และค่าห้อง แถมยังปิดปรับปรุงสมุย กับ Central World รายได้ก็ลดอีก

- มัลดีฟส์ โรงแรมเปิดกันเยอะมาก ค่อนข้าง over supply

- หัวหิน กำลังคุยเรื่องค่าเช่าใหม่อยู่ ยังไม่ได้สรุปว่าเท่าไหร่ แต่เดาว่าน่าจะขึ้นจากเดิมพอสมควร

#ERW

- รายได้หลักมาจาก Luxury Hotel คิดเป็นสัดส่วน 45% คือ Grand Hyatt Erawan กับ JW Marriott แต่รายได้ลดลงเยอะ

- จริงๆ ต้องบอกว่า ทุก Type ของ ERW รายได้ตกหมด ยกเว้น Hop Inn ที่ยังเป็นพระเอก รายได้โตขึ้น แต่สัดส่วนไม่เยอะมากแค่ 12% ของรายได้

- แผนการเติบโตก็ยังขยาย Hop Inn ทั้งในไทยและฟิลิปปินส์ ต้องดูว่าจะมาช่วยภาพรวมได้ขนาดไหน

====================

#DTC

- หลักๆ คือ น่าจะรอตัวโครงการใหม่ที่กำลังก่อสร้างโรงแรมตรงสีลมอยู่ ตอนนี้รายได้ที่เข้ามาก็จะเป็นการบริหารโรงแรมกับการขายสินทรัพย์ลงทุนเป็นส่วนใหญ่

- แต่เป็นหุ้นที่น่าติดตาม เพราะผู้บริหารคือคุณศุภจี ที่เคยพลิกฟื้น THCOM มาก่อน เป็น CEO ที่เก่งมากคนนึง โปรดติดตาม

#SHR

- ถ้าไม่มี COVID-19 โรงแรมที่เพิ่งเปิดไปที่มัลดีฟส์ มีอัตราการเข้าพักเร่งตัวสูงมากทีเดียว แต่ต้องบอกว่าเริ่มได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวหดตัวแล้ว และอย่างที่บอกไปตอนต้น มัลดีฟส์ โรงแรมเยอะมาก

- แต่ปีนี้มีแนวโน้มกำไรดีกว่าปีที่แล้วเพราะว่า มีการคืนหนี้ก้อนใหญ่ไป 5,400 ล้านบาท และมีการขายหุ้น 50% ในการพัฒนาเกาะ 3 ของโครงการ Crossroad ให้บริษัท EWD ของทางฝั่งพม่า เห็นบทวิเคราะห์เขียนว่า น่าจะบันทึก one time gain เป็นกำไรหลังหักภาษีที่ 275 ล้านบาท

#VRANDA

- รายได้ค่อนข้างเหวี่ยง เพราะว่ามีทั้งโรงแรม และคอนโดมิเนียม ปี 2018 รายได้เยอะเพราะโอนคอนโดที่พัทยาเยอะ แต่ปีที่แล้วเหลือไม่กี่ห้องรายได้เลยลดลง ขณะที่รายได้ฝั่งโรงแรมค่อนข้างทรงๆ ไม่เติบโตมากนัก ล่าสุดเห็นลดราคาโรงแรมพอสมควรหลังจากมี COVID-19

- ยังมีอีกธุรกิจคือ ร้านขนม แต่ไม่ใหญ่มากนัก แต่น่าจะมาเพิ่มรายได้ให้คือ ที่ไปซื้อ Plabo กับ Gram มา

- ปี 2020 จะมีคอนโดที่หัวหินพร้อมโอนใน Q2 มูลค่ามากกว่า 2 พันล้านบาท ยอดจอง 90% แล้ว คือ รายได้มาแน่ๆ ถ้าโอนกันเยอะ ก็ต้องติดตามว่าตลาดจะว่ายังไง

ใครสนใจหุ้นโรงแรมลองพิจารณากันดูครับ P/E ที่ว่าถูกในวันนี้ ถ้าอนาคตกำไรไม่โต P/E ก็แพงได้

แต่ถ้าไวรัสหายไป กำไรกลับมาปกติ ความคาดหวังก็จะกลับมา หุ้นก็อาจจะขึ้นได้เช่นกัน

ถ้าเรามองออก โอกาสก็อยู่แค่เอื้อมครับ เพื่อนๆ ว่า ตัวไหนดี แชร์ไอเดียให้ฟังกันหน่อยครับ

ป.ล. กราฟราคาและ P/E คู่กันย้อนหลังแบบนี้ เปิดดูได้จากโปรแกรม efin stock pick up ครับ