ช่วงเวลานี้น่าจะเป็นช่วงที่มนุษย์เงินเดือนหลายคน
เริ่มต้องตั้งคำถามใหญ่กับชีวิต
ว่าเรามี "เงินเก็บสำรอง" เพียงพอที่จะรับสภาพไม่มีรายได้เป็นเวลา 6 เดือนไหม
เพราะหลายธุรกิจที่โดนวิกฤติไวรัสโคโรน่า....เริ่มมีการลดคน
หลายธุรกิจเริ่มมีการขอความร่วมมือ ให้สลับกันลาหยุดแบบไม่รับเงินเดือน (leave without pay)
.
.
สำหรับในบางธุรกิจระยะเวลา 6 เดือนอาจจะไม่เพียงพอด้วยซ้ำ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว
เพราะกว่าจะเริ่มเข้าไฮซีซั่นอีกรอบนึงก็ต้องเดือนตุลาคม พฤศจิกายน
นั่นหมายถึง 8-9 เดือนนับจากนี้ จะมีหลายธุรกิจที่เกี่ยวพันกับท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ภัตตาคารกรุ๊ปทัวร์ สปา ทัวร์ไกด์ อาจต้องเรียกพนักงานคุย
ได้ยินว่าเริ่มมีมาแล้ว
โจทย์คือ ไม่อยากไล่ใครออก...แต่....
พนักงานจะต้องแบ่งกันหยุดแบบไม่รับเงินเดือน วนๆกันไป เป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งปี
ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็คงจําใจต้องตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต ... ลดคนออกไปก่อนครึ่งนึง
เข้าหน้าไฮ ค่อยว่ากันใหม่
.
.
ปัญหาใหญ่ของหลายคนคือ
No Savings ..."ไม่มีเงินเก็บเลย"
ชีวิตที่ผ่านมาใช้เงินเดือนชนเดือนตลอดมา
เพื่อนบอกให้ทุบกระปุกมาใช้จ่าย...ต้องอายๆบอกกรูไม่เคยหยอดกระปุก
หลายคนแม้รายได้สูง เงินเดือนเป็นแสน
แต่ไร้เงินเก็บ
แถมมีพฤติกรรมรวยอย่างสุดใจ
ช่วงที่มีงานทำ มีเงินเดือน จะดูเหมือนคนรวยมาก
แต่ทันทีที่เขาตกงาน จะกลายเป็นคนจนในทันที
.
.
โรคระบาด COVID19 รอบนี้
เข้ามากระตุกเตือนให้สังคมไทยอย่างแรง
ให้เราตระหนักรู้ถึงความสำคัญของเงินเก็บออมสำรองตามหลักการวางแผนการเงินพื้นฐาน
ว่าควรมีเงินสำรอง "อย่างน้อยที่สุด" เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่าย 6 เดือน (ถ้าให้ดียิ่งขึ้นก็ควรมี 12 เดือน)
โชคดีอยู่ไม่นาน โชคร้ายก็อยู่ไม่นาน เช่นกัน
6-12 เดือนผ่านไป อะไรๆต้องดีขึ้นกว่านี้แน่
ใครที่ยังมีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอ ท่านควรตั้งใจออม
ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ก็ตั้งเป้า "เงินเก็บสำรองค่าใช้จ่าย 6 เดือน" ก่อนเลย